Quantcast
Channel: Brand Buffet
Viewing all 21709 articles
Browse latest View live

เปิดตัวสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน ผลักดันธุรกิจการท่องเที่ยวและการแพทย์ระหว่างประเทศ [PR]

$
0
0

สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน จัดงานพิธีเปิดป้ายสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน และการประชุมนักธุรกิจร่วมลงทุนไทย-จีน ครั้งที่ 1 เพื่อส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมด้านสุขภาพสร้างบริการที่เปิดกว้างและทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการและส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลตาม “โครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21” และ “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” ภายใต้นโยบายรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 โดยมีบทบาทหลักในการให้บริการและความสะดวกสบายแก่ชาวจีนที่มีความต้องการด้านการท่องเที่ยว หรือด้านการแพทย์ ซึ่งทางสมาคมสามารถช่วยหาวิธีแก้ปัญหา และให้บริการอย่างเป็นมืออาชีพ ณ โรงแรมรามาดา พลาซ่า แม่น้ำ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ

ได้รับเกียรติจากบันลือ สุกใส ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร, พลเอก เสริมศักดิ์ วิเศษไชยศรี ประธานสมาคมนักธุรกิจไทย – จีน, กิตติโชค จิตต์สดศรี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์คณะกรรมาธิการคมนาคม, บุญรัตน์ ปุณมัจฉา พาณิชย์ จังหวัดสมุทรปราการ, มร. ชิว เชียน ประธานสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย – จีน มาร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน

มร. ชิว เชียน ประธานสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนว่า ทั้งสองประเทศนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างช้านาน ทั้งในส่วนของการค้าและวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ การก่อตั้งสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเวทีเชื่อมสัมพันธ์การค้า วัฒนธรรมระหว่างไทย-จีน ตามนโยบายของประเทศจีน “ 1แถบ1เส้นทาง “และนโยบายของรัฐบาลประเทศไทย “ไทยแลนด์ 4.0” ที่ต้องการ่วมกันพัฒนาประเทศในด้านการส่งเสริมการลงทุนด้านอาหาร การท่องเที่ยว การแพทย์ กีฬา การศึกษา และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงอื่นๆอีกมากมาย พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุน และได้เชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นครอบครัวสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีนอีกด้วย

สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย-จีน ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลไทยและกระทรวงพาณิชย์ให้มีการจดทะเบียนเป็นสมาคมอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทางสมาคมฯริเริ่มมาจากการให้ความสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจข้ามชาติ ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อให้ประเทศต่างๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการศึกษาค้นคว้าต่างๆ ในด้านสุขภาพ อาทิ “แพทย์แผนจีน” ที่ทางประเทศจีนได้ทำการค้นคว้ามากว่า 5,000 ปี  เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดในด้านการค้า เศรษฐกิจและเทคโนโลยี ซึ่งในอนาคตทางสมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพไทย – จีน จะจัดงานวิชาการระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการให้การสนับสนุนแก่นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ ระหว่างประเทศไทย กับประเทศจีน


อยากมีมั่งต้องมั่งมี!! ธนาคารกรุงศรี เปิดตัวช่องทางการรับชำระเงินง่ายๆผ่าน “กรุงศรีมั่งมี QR &กรุงศรีมั่งมี App” [PR]

$
0
0

ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปิดตัวผู้ช่วยทางการเงินที่จะทำช่วยให้แม่ค้ายุคดิจิทัล ค้าง่ายขายคล่อง ไม่ยุ่งยากเรื่องเงินอีกต่อไปกับ แอพพลิเคชั่น “กรุงศรีมั่งมี QR & กรุงศรีมั่งมี App”

โดยนายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย (Head of Retail Banking and Distribution Group) เผยว่า “กรุงศรีมั่งมี QR & กรุงศรีมั่งมี App” คือแอพพลิเคชั่นสำหรับร้านค้า เป็นอีกหนึ่งช่องทางการชำระเงินที่เพิ่มความสะดวกสบายในการค้าขาย รับเงินง่ายไม่ต้องห่วงเรื่องพกเงินทอนเยอะ เพิ่มความปลอดภัยให้กับร้านค้าด้วยรหัสผ่านส่วนตัว รองรับทุกระบบการชำระเงินแห่งอนาคต และบริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม

ตลอดจนลูกค้าก็สามารถช้อปปิ้งเพลิน ไม่ต้องถือเงินจำนวนมาก เพียงใช้แอพของธนาคารใดก็ได้ นำไปสแกนโค๊ดบน กรุงศรีมั่งมี QR จากนั้นก็สามารถโอนเงินเข้าบัญชี E-wallet ของแม่ค้าทันที แม้แม่ค้าจะไม่มีบัญชีธนาคารกรุงศรี ก็สามารถโอนเงินจากแอพเข้าบัญชีออมทรัพย์ได้ง่ายๆ เพียงสมัครใช้ QR และแอพกรุงศรีมั่งมี QR

ข้อดีของร้านค้าที่ใช้กรุงศรีมั่งมี QR

  • รับเงินสะดวก ไม่ต้องทอนเงิน
  • ไม่มีค่าธรรมเนียมการสมัคร
  • ไม่มียอดรับชำระขั้นต่ำ และรับเงินได้จาก Mobile Banking ของทุกธนาคาร
  • สามารถโอนเงินเข้าบัญชี e-wallet เข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีหรือเข้าบัญชีธนาคารอื่นที่ผูกกับพร้อมเพย์ได้
  • มีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้า เมื่อลูกค้าทำการชำระเงิน
  • สมัครง่ายเพียงนำบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาบัตรประชาชน แนบใบคำขอเปิดใช้บริการ
  • ดาวน์โหลดแอพได้ง่ายๆ ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android
  • ลงทะเบียนใช้งานบนแอพได้มั่นใจ ปลอดภัยด้วย OTP
  • สามารถเช็คยอดรับชำระเงินได้ทันทีจากกรุงศรีมั่งมีแอพ ดูยอดขายรายวันได้ และดูย้อนหลังได้ถึง 7 วัน

นอกจากนี้ กรุงศรียังได้เปิดตัว LINE Sticker มาสคอตของแอพนี้ เป็นน้องกล้วยสายแบ๊วสไตล์ญี่ปุ่น ชื่อ “มั่งมี” ที่มาพร้อมกับคู่หู แมวกวักชื่อ “มาเนกิ” แมวแห่งโชคลาภที่จะช่วยเรียกลูกค้า เมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็จะเพิ่มพลังขายดิบขายดี ขายง่าย จ่ายคล่อง โดยกรุงศรีเปิดให้ดาวน์โหลด LINE Sticker Krungsri Mung-Mee ได้ฟรีที่ https://store.line.me/stickershop/product/10617 (หมดเขต 23 พฤษภาคม 2561)

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “กรุงศรีมั่งมี QR และ กรุงศรีมั่งมี App

เมืองไทยประกันชีวิต มอบเงินสนับสนุนนักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย [PR]

$
0
0

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุนฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จำนวน 2 ล้านบาท โดยได้รับเกียรติจากนางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เป็นผู้รับมอบในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้แก่ทีมนักเตะหญิง (ทีมชบาแก้ว)

เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจหลังจากสร้างความสำเร็จในการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ และสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าอันดับ 4 ของศึกชิงแชมป์เอเชีย 2018 ที่ประเทศจอร์แดน และได้ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2019 ประเทศฝรั่งเศส โดยงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ สวนสุขภาพเมืองไทยประกันชีวิต เมื่อเร็วๆนี้

อนันดาฯ วางศิลาฤกษ์โครงการ เอลลิโอ เดล เนสท์ พร้อมเดินหน้างานก่อสร้าง [PR]

$
0
0

คุณวิโรจน์ กัปปิยจรรยา (คนกลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการพัฒนาโครงการ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์งานก่อสร้างโครงการ เอลลิโอ เดล เนสท์ (Elio Del-nest)

พร้อมด้วย คุณสุเมธ รัตนศรีกูล (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการธุรกิจคอนโดมิเนียม – ไอดีโอ คิว / เอลลิโอ และ คุณนัฐพล นาคสู่สุข (ที่ 2 จากซ้าย) Head of Business Unit เอลลิโอ ร่วมกับ คุณประเสริฐ บุญศรีภูมิ (ขวาสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีแอล เอ็นจิเนียส์ จำกัด และ คุณสุภาพ จรัลพัฒน์ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที. ที. เอส. เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงาน ร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อโครงการและผู้อยู่อาศัย ซึ่งโครงการ เอลลิโอ เดล เนสท์ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข ด้วยจุดเด่นเรื่องของพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยขณะนี้ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน เดือนมีนาคม ปี 2563

ข้อมูลเพิ่มเติม :

เอลลิโอ เดล เนสท์ คอนโดมิเนียมขนาดใหญ่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ในซอยอุดมสุข สุขุมวิท 103 ที่สะดวกด้วย Skywalk เพียง 750 เมตรจาก BTS สถานีอุดมสุข ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ Central Plaza Bangna, Mega Bangna, Seacon Square, Paradise Park และ Bangkok Mall ที่จะเปิดให้บริการในอนาคต ฯลฯ อีกทั้งยังใกล้โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาล อีกด้วย พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความโดดเด่นในทุกด้านและตอบสนองความต้องการครบทุกมิติ

“บูมเมอแรงช็อป” ร่วมกับ “4ksiam.com” เปิดตัวเทคโนโลยีแผ่น 4K ครั้งแรกในประเทศไทย [PR]

$
0
0

 

อาจารย์วิจิตร บุญชู ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพและเสียง จาก 4kSiam.com (บรรณาธิการบริหารเพจ The Wave Online เพจยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบระบบภาพและเสียง และเป็นเจ้าของเว็บไซต์ www.wijitboonchoo.com ผู้คร่ำหวอดในวงการระบบโรงภาพยนตร์ และ โฮมเธียเตอร์มายาวนานกว่า 30 ปี) เปิดเผยว่า

“วิวัฒนาการของการดูภาพยนตร์ในที่พักอาศัย หรือ โฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ได้ผ่านเทคโนโลยีถึงขั้นสูงสุด จากที่มีการแข่งขันกันถึงความคมชัดของภาพ ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ยุคของแผ่น 4K Blu-Ray Disc แล้ว โดยนวัตกรรมดังกล่าวได้มอบระบบภาพที่ใกล้เคียงกับการชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากที่สุด ซึ่งทางบ.บูมเมอแรง และเว็บไซต์ 4ksiam.com ได้ร่วมกันทำการตลาดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

ที่จริงแล้วเทคโนโลยีระบบของภาพ 4K จะมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง แต่คิดว่าตัว 4K จะยังมีอายุใช้งานยาวนานไปอีกกว่า 10 ปี เพราะทั้งผู้ผลิต content และภาพยนตร์ต่างชาติ อย่างตลาดของฮอลลีวู้ดได้ใช้เทคโนโลยีนี้เป็นมาตรฐาน อาทิค่ายภาพยนตร์ของ Lucus Entertainment ซึ่งเชื่อว่าคนไทยจะได้มีโอกาสในการรับชมและให้การตอบรับเทคโนโลยีในด้านนี้อย่างแพร่หลายแน่นอน เพราะอรรถรสที่ได้รับนี้จะช่วยสร้างให้เกิดความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้มากกว่าที่เคยมีมา ด้วยเทคโนโลยีที่รองรับสีสันมาตรฐาน DCI ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ เทคโนโลยี Hexz Chroma Drive ถ่ายทอดสีสันสู่จอภาพ OLED ของสมาร์ททีวีที่ใช้กันอยู่ปัจจุบัน จึงสามารถสนองตอบได้กว้างขวางแม่นยำให้สีสันมาตรฐาน DCI ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ที่จะช่วยสร้างคุณภาพทางด้านภาพที่แท้จริงจากมุมมองของผู้สร้างภาพยนตร์ ที่มีกระบวนการสร้างสีสันระดับมืออาชีพ จัดการสีแบบสามมิติ สามารถแยกระดับชั้นความสว่างได้โดยละเอียด สีสันจึงแม่นยำถูกต้องสมจริง เรียกว่า True Blacks Expression”

คุณสายใจ อภิรัตน์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บูมเมอแรง ออนไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า “ในส่วนของบูมเมอแรงช็อป ผู้ทำธุรกิจค้าปลีกเกี่ยวกับโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ทั้งหมด ปัจจุบันร้านบูมเมอแรงช็อปมีทั้งหมด 32 สาขาทั่วประเทศ มีจำนวนฐานสมาชิกมากกว่า 200,000 คน ซึ่งสินค้าปัจจุบันมีทั้ง DVD Blu-ray และปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของแผ่น 4K ซึ่งคิดว่าจะช่วยสร้างเทรนด์ใหม่ล่าสุดให้กับวงการ โฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งปัจจุบันทางค่ายได้รับสิทธิ์นำเข้าแผ่น 4K มาแล้วกว่า 200 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีการถ่ายทำที่ทันสมัย และคมชัดสูงมากที่สุด ปัจจุบันบ.บูมเมอแรงได้ทำการตลาดในแนวที่ให้บริการที่มุ่งรักษาฐานลูกค้าที่เน้นความใส่ใจในการบริการ การมอบเทคโนโลยีคุณภาพ มามอบให้กับสมาชิกอยู่เสมอ เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบจากการเสพ content ผ่านโลกออนไลน์ แต่ฐานลูกค้าของบูมเมอแรงจะเน้นเจาะกลุ่มพรีเมียม ที่มีลูกค้ามีระบ โฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ในบ้าน แต่ในส่วนของกลุ่มลูกค้าแมสก็ยังทำการตลาดในร้านค้าสะดวกซื้อเช่น เซเว่น อีเลฟเว่น และโลตัสด้วย”

คาดการณ์ว่าเทคโนโลยี 4K คิดว่าจะทำให้สถานการณ์การตลาดแผ่นภาพยนตร์โฮมเอนเตอร์เทนเม้นท์ตื่นตัวมากขึ้นซึ่งจะทำให้ยอดขายเติบโตมากขึ้น และจะยังคงสู้กับตลาดออนไลน์ได้บ้าง และมุ่งไปสู่กลุ่มคนที่เป็นนักสะสม และชอบที่จะเก็บแผ่นหนัง และความประทับใจเอาไว้ส่วนตัว ทั้งนี้นอกจากแผ่นภาพยนตร์แล้ว บูมเมอแรงช็อปยังจัดจำหน่ายเครื่องเล่น หนังสือ โมเดล และของทีระลึกต่างๆ อย่างครบวงจรอีกด้วยโดยเราได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.boomerangshop.com

ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ทาง Line@ Boomerangshop  และ 4K Siam.com

ททท. ชู Music Marketing ดึง “อนันดา” โหมกระแสเที่ยวไทยเท่ 55 เมืองรองต้องไปเห็นด้วย “ตา”

$
0
0

หากพูดถึงกลยุทธ์การตลาดที่สามารถเข้าถึงอารมณ์ของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี “เพลง”  ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่นักการตลาดนิยมนำมาใช้  เนื่องจากสามารถเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

เพราะเหตุนี้นักการตลาดเลยนิยมใช้กลยุทธ์ Music Marketing เพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค เช่นเดียวกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ที่ขอออกมาปลุกกระแสการท่องเที่ยวในเมืองไทยแบบเท่ๆ และมีคุณภาพ ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ  “amazing ไทยเท่”ภายใต้แนวคิด “เมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา”

การทำแคมเปญ “amazing  ไทยเท่” ในครั้งนี้ ถือหนึ่งในกลยุทธ์การตอกย้ำแคมเปญ amazing Thailand ที่ ททท. ใช้สื่อสารการตลาดในต่างประเทศมาเป็นระยะกว่า 35 ปี นับตั้งแต่ปี 2526 ทำให้ปัจจุบันแคมเปญ “amazing Thailand” มีความแข็งแรงมากในต่างประเทศ

จากความสำเร็จที่ได้รับ  จึงได้ดึงคำว่า “ amazing” มาใช้สื่อสารตลาดในประเทศ เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และตอกย้ำมุมมองความอะเมซิ่งของแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยว่า มีความสวยงามและเท่แค่ไหน เมื่อได้เข้าไปสัมผัส

และเพื่อให้คนไทยได้สัมผัสถึงความ “ amazing” ของแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองของไทย ททท. เลยขอสร้างแรงบันดาลให้กับนักเดินทางผ่าน “Music Story”ด้วย “เพลงยามรัก” ซึ่งได้ หนึ่ง-อภิวัฒน์ พงษ์วาท หรือ หนึ่ง ETC มาร่วมถ่ายทอดบทเพลงแสนไพเราะ พร้อมภาพแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามในมุมมองใหม่(New Perspective)  ที่ใครหลายคนอาจยังไม่เคยเดินทางไปสัมผัส

นอกจากนี้ ยังได้ดึงหนุ่มอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม ดารานักแสดงมาดเท่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ “เพลงยามรัก” เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวการออกเดินทางไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่างๆ ที่พูดเท่าไหร่ ก็ไม่เท่ากับเห็นด้วยตาไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศสายน้ำ สายหมอกยามเช้า แสงแดดอุ่นๆยามสาย หรือบรรยากาศโรแมนติกๆของช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน  และแสงดาวที่เต็มท้องฟ้าในช่วงค่ำคืน เรียกได้ว่า คิดถึงก็ออกมาตามหาความสุข เพราะเมืองไทยสวยทุกที่ เท่ทุกเวลา เหมือนกับที่หนุ่มอนันดากล่าว

เหตุผลที่ทำให้ ททท. เลือก อนันดา เป็นพรีเซ็นเตอร์ในแคมเปญ “amazing ไทยเท่” เพราะหนุ่มคนนี้มีความเท่ และมีความสามารถหลายด้านไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้จัดละคร หรือการถ่ายภาพ  ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมากจากพ่อของเขาที่เป็นช่างภาพ และชอบที่สำคัญไปกว่านั้น หนุ่มคนนี้เป็นนักเดินทางตัวยง ซึ่งถือว่าตรงกับคอนเซ็ปต์ของแคมเปญ

และเพื่อให้แคมเปญ “amazing ไทยเท่” สื่อสารการตลาดออกมาแบบบูรณาการ (Integrated Marketing Communication) ททท.จึงวางกลยุทธ์การสื่อสารแบบ 360 องศาครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณาออนไลน์และออฟไลน์  เพื่อสร้างกระแสการเดินทางให้เกิดแรงกระเพื้อมไปยังพื้นที่ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ  ในแหล่งท่องเที่ยว 55 เมืองรอง

ด้วยการทำสกู๊ปพิเศษ  “amazing ไทยเท่” ออกมา 5 ตอน ผ่านเท่ setter  ได้แก่ ป้าตือ-สมบัษร ถิระสาโรช,  ฌอห์ณ จินดาโชติ, สิงโต นำโชคและไบร์ท-พิชญทัฬน์ จันทร์พุฒ ด้วยการนำเสนอจุดขายเชิงคุณค่าที่แตกต่างกันของแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างนิยามใหม่ของการท่องเที่ยวให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน หรือครอบครัว

นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามเรื่องราวเที่ยวไทยแบบเท่ ๆ ที่ทำให้รู้ว่าเมืองไทย..สวยทุกที่  เท่ทุกเวลา

ได้ที่ FB: amazing ไทยเท่

MBK Interactive Game เกมมันส์ท้าประลอง สแกนแล้วโชว์สกิล มาโกยรางวัลมากมายที่ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ [PR]

$
0
0

ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เอาใจคอเกมและนักล่ารางวัล จัดแคมเปญสุดมันส์ MBK Interactive Game นำจออินเตอร์แอคทีฟพร้อมเกมสนุกๆ และของรางวัลมากมาย มาชวนผู้ใช้บริการร่วมท้าประลอง เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านทางสมาร์ทโฟนก็พร้อมเล่นเกมล่าของรางวัล ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2561 ณ ลานเซ็นเตอร์ ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

กติกาการร่วมเล่นเกมนั้นก็แสนง่าย เพียงผู้เข้าแข่งขันดาวน์โหลด MBK Application จากนั้นสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียนเล่นเกม โดยต้องร่วมแข่งขันบนจอ Interactive เพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด หากชนะคู่แข่งขันและได้คะแนนตามที่กำหนด ก็เลือกรับของรางวัลมากมาย*** อาทิ

  • คะแนนรวม 3,000 คะแนนขึ้นไป เลือกรับบัตรชมภาพยนตร์จากเอสเอฟซีเนม่า หรือวอยเชอร์รับประทานอาหารจากร้านตำมั่ว ร้านซูกิชิ หรือร้านแมคโดนัลด์ จำนวน 1 ใบ
  • คะแนนรวม 5,000 คะแนนขึ้นไป รับของพรีเมี่ยมสุดว้าวจากคอลเล็กชั่น “The Amazing Carnival จำนวน 1 ชิ้น
  • คะแนนรวม 7,000 คะแนน เป็นต้นไปรับบัตรสตาร์บัคจำนวน 1 ใบ

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่  www.facebook.com/mbkcenterth

*** จำกัดการแลกรับของรางวัล 1 สิทธิ์ ต่อผู้เล่น 1 ท่าน ตลอดระยะเวลาแคมเปญ

ไทยประกันชีวิต และ โอกิลวี่ ร่วมรับรางวัล Silver สุดยอดแคมเปญการตลาด จาก Effie Awards 2018 ประเทศสิงคโปร์ [PR]

$
0
0

นางดวงเดือน คงคาสวัสดิ์  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ พร้อมด้วยผู้แทนจาก บริษัท  โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอดเวอร์ไทซิ่ง  รับรางวัล Silver ในหมวด Asia Pacific brands จาก Effie Awards 2018

จากแคมเปญชุด “ชีวิตคือโอกาส Life is an Opportunity”   ซึ่งเป็นการประกวดแคมเปญสื่อสารการตลาดระดับโลก  โดยพิจารณาจากผลงานที่สร้างความสำเร็จต่อธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 573 ผลงานจากทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ณ ห้อง Ballroom โรงแรม Four Season  ประเทศสิงคโปร์


ผ่าเทรนด์ “บรรจุภัณฑ์” ด่านแรกกระแทกใจผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ

$
0
0

การจะสร้างผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม โจทย์แรกที่นักการตลาดมักคำนึงถึงย่อมเป็นเรื่องของ “รสชาติ”จากนั้นก็ไปวางแผนผลิตสินค้า ทำตลาด ตามลำดับขั้นตอน แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่นักการตลาดไม่ได้มองข้าม แต่อาจจะไม่ได้ถูกชูเป็นจุดขายลำดับต้นๆ คือ “บรรจุภัณฑ์” ทั้งที่ในความเป็นจริง แพ็คเกจจิ้งถือเป็น “ด่านแรก” ที่ผู้บริโภคทุกคนมองเห็น จากดีไซน์ที่สวย สดใส สีสัน โดดเด่นบนชั้นวางสินค้าแล้วสร้างแรงกระตุ้นให้เลือกหยิบซื้อ

ปัจจุบันเทรนด์การผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มเปลี่ยนไปมาก ยิ่งในกลุ่มเครื่องดื่มจะเห็นว่ากล่องเข้ามามีบทบาทต่อผู้ประกอบการ และผู้บริโภคในหลายมิติ อาทิ การดีไซน์ออกแบบให้หยิบจับได้เหมาะมือ ภาพลักษณ์มีความทันสมัย การพกพาต้องตอบสนองความสะดวกสบายของผู้บริโภคยิ่งขึ้น เทรนด์ของบรรจุภัณฑ์ไม่ได้มีแค่นั้น เต็ดตรา แพ้ค (Tetra Pak)” ผู้นำด้านการผลิตและบรรจุอาหารและเครื่องดื่มแบบครบวงจร ได้มองลึกลงไปในจุดนี้ ผ่านเทรนด์ผู้บริโภคใน 10 ปีข้างหน้า ดังนี้

– บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารปลอดภัย หัวใจการเติบโตอย่างมั่นคง 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำธุรกิจอาหาร “ความปลอดภัย” เป็นหัวใจขั้นสูงสุดในการผลิตสินค้าออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แม้ว่าอาหารจะรสชาติอร่อยมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัย ธุรกิจจะมี “จุดอ่อน” อันใหญ่หลวงทันที

นอกจากกระบวนการผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานแล้ว การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ จะช่วยรักษารสชาติ สะอาด ปลอดภัย และได้คุณค่าทางโภชนาการด้วย ปัจจุบัน เต็ดตรา แพ้คเองมีการนำนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ เทคโนโลยีการผลิตที่ยกระดับมาตรฐานสูงสุดระดับสากลเพื่อรับประกันด้านอาหารปลอดภัย สอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิตแบบพาสเจอไรซ์สำหรับผลิตภัณฑ์แบบที่ต้องแช่เย็น หรือแบบยูเอชที (UHT) สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้ได้ในอุณหภูมิห้อง เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์คงความสดใหม่เก็บได้นานโดยไม่ต้องใช้วัตถุกันเสีย

หากย้อนไปดูระบบการผลิตและบรรจุแบบ UHT จะพบว่า เต็ดตรา แพ้ค ถือเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมดังกล่าวขึ้นมา นับเป็นผลงานการันตีการเป็นผู้นำในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และบรรจุภัณฑ์ระดับโลกได้เป็นอย่างดี

– คิดนอกกรอบด้วยนวัตกรรม 

จะว่าไปแล้ว บรรจุภัณฑ์ก็ไม่ต่างจากเสื้อผ้า สามารถเป็นแฟชั่นได้ ไม่อย่างนั้นตลาดคงไม่ได้เห็นแพ็คเกจจิ้งชิคๆ เก๋ๆ บนเชลฟ์อย่างแน่นอน แต่การจะผลิตบรรจุภัณฑ์เจ๋ง เท่ห์ เก๋ ได้ “นวัตกรรม” จะเป็นตัวตอบโจทย์ให้สามารถทำสิ่งที่พ้นจากกรอบเดิมๆได้ ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตมีการนำเสนอนวัตกรรม ช่วยเปลี่ยนไอเดียเดิมๆให้เด็ด โดนใจลูกค้าได้มากขึ้น อย่างการดีไซน์บรรจุภัณฑ์แบบกล่องที่มีเหลี่ยมมุม โค้งเว้า ไม่ใช่แค่กล่องสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ

– เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ยุคนี้ผู้บริโภคชาญฉลาดเลือกซื้อสินค้า นอกจากบริโภคสินค้าดี อร่อย มีคุณภาพ แต่ปัจจุบันผู้บริโภคต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วม “รักษ์โลก” ให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนมากขึ้น หากสินค้าไหนยังไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ อาจจะสูญเสียลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ เทรนด์นี้ทำให้แบรนด์สินค้าอาหารต้องหันมาปรับการใช้บรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง ทำจากวัสดุที่ทดแทนได้และรีไซเคิลได้ เป็นต้น

เพื่อยืนยันว่าเทรนด์การมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมมาแรง ผลจากการสำรวจตลาด พบว่า พฤติกรรมผู้บริโภค 78% เลือกซื้อสินค้าโดยพิจารณาจากบรรจุภัณฑ์ที่ดี เป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

-บรรจุภัณฑ์ด่านแรกชนะใจผู้บริโภคชาวโซเชียล

โลกดิจิทัล กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้บริโภคมากขึ้น จากงานวิจัยพบว่าคนไทยใช้เวลาเสพสื่อออนไลน์เฉลี่ย 6.30 ชั่วโมงต่อวัน (ที่มา : ดันน์ฮัมบี้) และส่วนใหญ่จะจับจ้องที่โซเชียลมีเดีย ทำให้สื่อดังกล่าวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในหลายๆด้าน

จากข้อมูลจากเว็บไซต์ unpacking opportunities ของเต็ดตรา แพ้ค พบว่า ผู้บริโภคมากถึง 75% มีการตัดสินใจซื้อสินค้าเพียงเพราะเห็นจากโซเชียลมีเดีย และผู้บริโภคอีก 48% ยินดีจะจ่ายมากขึ้น ถ้าได้สินค้าที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวได้ ดังนั้น หากผลิตภัณฑ์สามารถ “ดีไซน์” สินค้าได้ “ตรงใจ” กับ “ความต้องการ” ของกลุ่มเป้าหมาย ย่อมหมายความว่า “โอกาส” ในการขายสินค้าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

การเห็น “เทรนด์ตลาด” และ “ความต้องการของผู้บริโภค” ในอนาคต นับว่ามีความสำคัญมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นกุญแจ ที่จะช่วยไขเคล็ดลับให้ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มประสบความสำเร็จได้ เพราะการคาดการณ์แนวโน้มตลาดล่วงหน้า ทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำมากำหนดในแผนงาน วางกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค ลูกค้าได้อย่างตรงจุดที่สุด กลับกันหากไม่สามารถตามเทรนด์เหล่านั้นทันท่วงที นอกจากจะพลาดโอกาสในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจแล้ว อาจนำไปสู่การถดถอยของธุรกิจย่อมเป็นได้

ส่อง 9 สุดยอดนวัตกรรมปังๆ ที่คุณสัมผัสได้ ในงาน Power Buy Expo 2018

$
0
0

เริ่มแล้วสำหรับ Power Buy EXPO 2018 ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่19 แล้ว และอย่างที่ทราบกันดีว่างานนี้ไม่ใช่แค่การนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาลดราคาประจำปีทั่วไป แต่เปิดโอกาสให้แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ สามารถนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อยกระดับความสะดวกสบายและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภคได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและ Entertain ต่างๆ ได้ด้วย

โดยมีเจ้าภาพอย่าง เพาเวอร์บาย ผู้นำธุรกิจศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดพื้นที่ให้สินค้ามากกว่า 20,000 รายการ จากหลากหลายแบรนด์พันธมิตรชั้นนำระดับโลกได้นำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีที่โดดเด่นของแต่ละแบรนด์ และสอดคล้องกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคดิจิทัล ภายใต้แนวคิด The Next Big Things เทคโนโลยีที่คุณสัมผัสได้ เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภคที่เคยคิดว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว เข้าใจได้ว่าจริงๆ แล้วเทคโนโลยีอยู่รอบตัว จนกลายเป็นส่วนหนึ่งและเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และนี่คือ 9 Big Things ตัวอย่างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสเมื่อเข้ามาในงาน Power Buy EXPO 2018 ในปีนี้

  1. Power Buy Smart Robot หุ่นยนต์อัจฉริยะ ที่จะคอยมาทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อต้อนรับและคอยให้ข้อมูลกับลูกค้าที่เข้ามาในงาน เพราะสามารถโต้ตอบ ทักทาย กับผู้คนทั่วไปได้
  2. การแนะนำนวัตกรรมระดับโลกจากแบรนด์ LG ผ่านแอพพลิเคชั่น Smart ThinQ ที่สามารถควบคุมการทำงานได้เพียงปลายนิ้วผ่านสมาร์ทโฟน แบบทุกที่ทุกเวลา พร้อมฟังก์ชั่น Smart Diagnosis ที่มีคุณสมบัติในการวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นได้ สามารถใช้งานได้กับผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุดของแอลจีในทุกกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือกลุ่มโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์

  1. Innovative Product ล่าสุด LG ในกลุ่มสมาร์ททีวีกับ LG OLED TV รุ่น OLEDW8PTA ที่มีจุดเด่นอย่างนวัตกรรม LG ThinQ AI ระบบปฏิบัติการสมาร์ททีวีแบบสั่งงานด้วยเสียง ที่สามารถเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค โดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Intelligence Voice Recognition เพิ่มความสามารถในการรองรับคำสั่งด้วยเสียงอย่างมีประสิทธภาพยิ่งขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติด้านภาพและเสียงที่สมบูรณ์ ตามคอนเซ็ปต์ Perfect Black, Perfect Color และ Perfect Viewing Angle

  1. ครั้งแรกในประเทศไทยกับการแนะนำสุดยอดเลเซอร์ทีวีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอย่าง Hisense Laser TV 100 นิ้ว ด้วยคุณภาพของเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ให้จอภาพคุณภาพสูงและสบายตา ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูในโรงภาพยนตร์ เนรมิตให้ห้องกลายเป็นโฮมเธียเตอร์ พร้อมฟีเจอร์ควบคุมผ่านรีโมทสั่งงานเพียงครั้งเดียว

  1. ประสบการณ์ AI Home Entertainment ในโซน Smart Space Zone รวบรวมเทคโนโลยี IOT พร้อมระบบ Voice Command ที่ช่วยเปลี่ยนห้องนั่งเล่นในบ้านให้พร้อมสำหรับทุกปาร์ตี้ได้ภายในพริบตา จากสินค้าเทคโนโลยีหลากหลายแบรนด์ อาทิ Samsung QLED TV และชุดโฮมเธียเตอร์ จาก ONKYO และ POLK รองรับการสั่งงานด้วย Home Pod และสร้างบรรยากาศเย็นสบายภายในห้องด้วยเครื่องปรับอากาศจาก Haier

  1. Easy Food, Easy Life Zone ต้นแบบห้องครัวแห่งอนาคต สำหรับสายชิมและสายสุขภาพกับความอัจฉริยะของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องครัว ทั้ง Interactive LED Screen ที่สามารถค้นหาเมนูอาหารพร้อมบอกคุณค่าทางโภชนาการที่จะได้รับ เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ พร้อมไอเดียตกแต่งห้องครัวด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าฟังก์ชั่นครบอย่าง ตู้เย็น Multidoor จากแบรนด์ซัมซุง, เครื่องอบผ้าและล้างจานอิเล็คโทรลักซ์, และกลุ่ม Home Appliance จากหลากหลายแบรนด์ดัง

  1. นอกจากเรื่องของโนโลยีและนวัตกรรมสินค้าต่างๆ ปีนี้ Power Buy Expo 2018 ยังเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ผ่าน Game Zone เป็นครั้งแรก รองรับอีกหนึ่งไลฟ์สไตล์มาแรงของคนรุ่นใหม่ที่นิยมเล่นอีสปอร์ตมากขึ้น พร้อมจัดการแข่งขัน Power Buy E-Sport ด้วย Sony PlayStation4 โดยจะเปิดแข่งขันทุกวันด้วยเกม FIFA 2018 เพื่อค้นหาผู้ชนะพร้อมรับของรางวัลมากมาย มูลค่ากว่า 7 หมื่นบาท

  1. Power Buy Snap หนึ่งกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุกตามวิถี Digital Life เพียงถ่ายรูปคู่กับ Backdrop ภายในงาน Power Buy Expo 2018 แล้วแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ก็มีสิทธิ์ได้รับของรางวัลเป็น iPad WiFi 9.7” รุ่นใหม่ล่าสุด ราคา 11,500 บาท

  1. เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นงานแสดงสินค้าที่มีความล้ำหน้าในเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี ปีนี้ Power Buy Expo 2018 ได้เปิดประสบการณ์การซื้อสินค้าในรูปแบบ Omnichannel สำหรับคนที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่งานก็สามารถเลือกซื้อสินค้าภายในงานได้อย่างไร้กังวล หลังจากอีเวนท์ปิด ตั้งแต่ 3 ทุ่ม – 9 โมงเช้าของทุกวันระหว่างจัดงาน โดยจะได้รับสิทธิพิเศษและดีลต่างๆ เหมือนกับภายในงาน พร้อมบริการจัดส่งสินค้าในรูปแบบ Click & Collect ที่ให้ผู้ซื้อสามารถกำหนดได้ว่าจะรับสินค้าจากเพาเวอร์บายในสาขาที่สะดวกที่สุด

คุณธีรินทร์ คูสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดงานในครั้งนี้ว่า งาน Power Buy Expo 2018 ในปีนี้ มีระยะเวลาในการจัดงานรวม 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. – 6 พ.ค. 2561 ที่ไบเทค บางนา ฮอลล์ 101 -102 โดยเพาเวอร์บายร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก เพื่ออัพเดทเทรนด์ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ให้แก่ผู้บริโภค ผ่านการพัฒนา Smart Things และ Smart Devices ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทำให้มีเวลาในการพักผ่อน เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเอง หรือใช้เวลาร่วมกับครอบครัวมากขึ้น

“เพาเวอร์บายให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ Customer Centric จึงพยายามนำเสนอรูปแบบการจัดงานที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของลูกค้าในยุคดิจิทัลให้มากที่สุด ภายใต้แนวคิด The Next Big Things เทคโนโลยีที่คุณสัมผัสได้ โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยมีสมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ มาเป็นสื่อกลางในการควบคุมและสั่งงาน ขณะที่สินค้าก็มีการพัฒนาด้าน AI จนมีความฉลาดและมีความใกลิชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารและเรียนรู้พฤติกรรมต่างๆ ของผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้นด้วย”

ในงานนี้ยังได้นำสินค้านวัตกรรมมากกว่า 20,000 รายการ มาจำหน่ายในราคาพิเศษ เพิ่มความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ทั้งสินค้าโปรโมชั่นภายในงานที่ลดสูงสุดถึง 46% และยังเพิ่มส่วนลดสุดคุ้มอีกถึง 8 ต่อ อาทิ ช็อปครบ 10,000 บาท รับคูปองเพื่อช้อปปิ้งต่ออีก 10,000 บาททันที, รวมทั้งสมาชิก The1Card ที่สามารถใช้คะแนนรับส่วนลดต่อได้อีก 15% , ผู้ถือบัตรเครดิต Central The1 ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดเพิ่ม 2 เท่า พร้อมเลือกผ่อนชำระ 0% จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนาทีทองทุบราคาพิเศษทุกวัน วันละ 2-3 รายการ ใน 3 ช่วงเวลา เป็นต้น

นอกจากได้อัพเดทเทคโนโลยีและสินค้านวัตกรรมต่างๆ พร้อมโปรโมชั่นสุดคุ้มแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ร่วมสนุกตลอดการจัดงาน ทั้งจากศิลปินและกูรูมากมายที่จะมาร่วมพูดคุยและมอบความสนุกสนานจากเวทีกลางภายในงาน รวมทั้งกิจกรรรม Meet & Greet กับบอย-ปกรณ์ ในวันที่ 6 พ.ค. เวลา 17.00 น. มาร่วมเปิดประสบการณ์พร้อมสัมผัสนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้ในงาน Power Buy Expo 2018 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ 101–102 ได้จนถึง 6 พ.ค. 2561 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติม www.facebook.com/Powerbuythailand/

Onitsuka Tiger ฉลองเปิดสาขาใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สยามเซ็นเตอร์ [PR]

$
0
0

เตรียมตัวช้อปกันให้เพลินได้ตั้งแต่วันนี้ Onitsuka Tiger พร้อมเปิดประสบการณ์การช้อปเปิดสโตร์ที่สยามเซ็นเตอร์ สโตร์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอาใจสาวกพี่เสือนับตั้งแต่กลุ่มคนรักแฟชั่น คนชอบออกกำลังกาย สายช็อป ไปจนถึงกลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยว ในราคาที่เทียบเท่ากับสโตร์อื่นๆ

สำหรับตำนานของ Onitsuka Tiger จุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นร้านรองเท้าขวัญใจทุกคนทั่วโลก  นับย้อนไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2492 เมื่อนายคิชาชิโร โอนิซึกะ (Kihachiro Onitsuka) คิดริเริ่มผลิตรองเท้าเพื่อส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยใส่ใจและเล่นกีฬากันมากขึ้น จวบจนปัจจุบัน มรดกทางวัฒนธรรมและความประณีตของญี่ปุ่น ได้หลอมรวมกับความงามเหนือกาลเวลา ถูกนำมาพัฒนาและสร้างสรรค์ผลงาน ร่วมมือกับศิลปินที่มาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นับตั้งแต่ศิลปิน ไปจนถึงนักออกแบบแฟชั่น Onitsuka Tiger ยกระดับแบรนด์สปอร์ตให้กลายเป็นแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ส่วนสำคัญในชีวิตผู้คน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมล้นหลามและพบเห็นกันได้บนท้องถนนทั่วโลกในปัจจุบัน

Onitsuka Tiger สโตร์ที่ใหญ่ที่สุดใน SEAนี้ มีจุดเด่นด้วยขนาดพื้นที่ที่ใหญ่ถึง 237 ตารางเมตร ตั้งอยู่ ณ จุดนัดพบใจกลางเมืองอย่างห้างสรรพสินค้าสยามเซ็นเตอร์ ถือได้ว่าเป็นจุดหมายของนักช็อปทั่วทุกมุมโลก เต็มไปด้วยแบรนด์หรูหรา มีสไตล์โดดเด่น จวบจนกระทั่งแบรนด์แฟชั่นระดับสากล จึงได้ว่าที่นี่ เป็นช็อปปิ้งมอลล์ที่เป็นศูนย์กลางของแฟชั่นอย่างแท้จริง

ทางสโตร์ยังนำเสนอแฟชั่นในกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น ผ่านไลน์สินค้าที่หลากหลายทั้งรองเท้า เครื่องแต่งกาย และแอสเซสซอรี่ที่ตอบโจทย์ความต้องการและกระแสของแฟชั่นแก่สุภาพบุรุษ สุภาพสตรี และเด็กได้อย่างครบครัน

สำหรับคอลเลคชั่น Spring & Summer 2018 เปิดตัวด้วยรองเท้าลายเอกลักษณ์สุดฮิตอย่าง Mexico 66 SD ที่สะท้อนถึงแก่นของแบรนด์ เน้นทั้งการดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ทั้งภาพลักษณ์และความสบายในการสวมใส่ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ เฉกเช่นเดียวกับรุ่นคลาสสิคยอดนิยมอย่าง MEXICO 66 ทั้งลายที่เป็นซิกเนเจอร์ที่โดดเด่นของ Onitsuka Tiger  การซัพพอร์ทฝ่าเท้าจนไปถึงส้นเท้า และยังเพิ่มเติมด้วยการลงสีดีไซน์ที่เพิ่มมิติ ชวนสะดุดตา และการสนับสนุนส้นเท้าที่ดีขึ้นด้วยการใช้วัสดุหลากหลายที่รองรับได้ดียิ่งขึ้น ผนวกกับนวัตกรรมการรองรับแรงกระแทกในทุกก้าวย่าง ด้วยแผ่นรองกระแทก และ fuzeGELที่ได้รับการรองรับจากสถาบันวิจัยด้านรองเท้ากีฬาของ ASICS เพิ่มด้วยประสิทธิภาพในการใช้งาน และวิธีการดูแลรักษาด้วยการเคลือบผิวยางชนิดพิเศษทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย แถมทนต่อสภาพอากาศที่เปียกชื้น  ต่อด้วยการนำอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรมอย่าง OrthoLite ที่มีความโดดเด่นในการระบายที่ดี ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายเท้าทุกย่างก้าว

ตามมาติดๆด้วยไฮไลท์อย่างรุ่น Nippon made collection series ความภาคภูมิใจล่าสุดของ Onitsuka Tiger รองเท้าทุกคู่ผลิตโดยขั้นตอนพิเศษ นับตั้งแต่การใช้วัสดุผลิตรองเท้าที่มีความหลากหลาย ส่วนหนังรองเท้าด้านบน จะถูกล้างและผ่านกระบวนการทางความร้อน และรองเท้าจะถูกบีบเพื่อให้น้ำแห้งจากตัวรองเท้า ปล่อยไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นรองเท้าจะเกิดรอยริ้วที่เป็นเอกลักษณ์ เสมือนรองเท้าในยุควินเทจ ทุกขั้นตอนดำเนินด้วยมืออย่างชำนาญ จนเกิดลายที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันแม้แต่คู่เดียวในโลก

ภายในตัวร้าน เน้นการผสมผสานระหว่างธรรมชาติแบบญี่ปุ่นกับวัสดุที่มนุษย์สร้างขึ้น ทั้งยังผสมผสานงานฝีมือที่ใช้วัสดุอย่าง Sumi Mortar พื้นผิวลายไม้ธรรมชาติ ชี้ให้เห็นถึงความปราณีต แต่ไม่ละทิ้งความรู้สึกที่กระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ ยังใช้วัสดุอย่าง Asagi Tsuchi   ดินญี่ปุ่นชนิดพิเศษที่ใช้ในการป้องกันการแตกร้าว จวบจนกระทั่งการใช้สี Sumi (ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง น้ำ น้ำหมึก Sumi และตัวทำละลายอะคริลิค) จนเกิดเฉดสีที่เป็นธรรมชาติ มองแล้วให้ความรู้สึกอยู่ในแวดล้อมธรรมชาติอันอบอุ่น

ในงานเปิดสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia นี้ จะจัดขึ้นโดย ASICS ประเทศไทย พร้อมเปิดตัว คอลเลคชั่นต้อนรับ Spring & Summer 2018 นี้ด้วยรุ่นสุดฮิต MEXICO 66 SD ,TIGER MHS ,CALIFORNIA 78 EX, DELEGATION LIGHT และรุ่นไฮไลท์สุดพิเศษ Exclusive Nippon Made Series

ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก นักแสดงชื่อดัง มาร์กี้ –ราศรี บาเล็นซิเอก้า    จิราธิวัฒน์   และ  บอย- ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เช่นเดียวกับคุณ สปัญญ์ อินทวงษ์  นักวาดภาพประกอบชื่อดัง  ที่จะร่วมเป็นเกียรติวาดภาพเอ็กซ์คลูซีฟกับรองเท้า  Onitsuka Tiger ภายในงานเปิดสโตร์ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับคัดเลือกจากกิจกรรม Shoot your step, share your style ทั้ง 3 ท่าน จะได้รับเชิญมางานเปิดสโตร์ Onitsuka Tiger ที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia และรูปที่ได้รับการคัดเลือก จะจัดแสดงใน Exhibition ณ สยามเซ็นเตอร์และ

พร้อมเปิดให้ทุกท่านเข้าชมได้ในวันที่ 25 – 26 เมษายนนี้  Onitsuka Tiger พร้อมแล้ว ที่จะเนรมิตโลกแห่งแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ สยามเซ็นเตอร์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สาขา Onitsuka Tiger สาขา สยามเซ็นเตอร์
ที่อยู่ ชั้น G 979 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน แขวงปทุมวัน กทม 10250
เบอร์โทรศัพท์ 02-658-1122
วันเวลาทำการ จันทร์ – อาทิตย์ 10:00-22:00

 

OFFICIAL HOME PAGE

http://www.onitsukatiger.com

http://www.onitsukatigermagazine.com

คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ พาแฟน “บิ๊ก คาเมร่า” เที่ยวเมืองในฝัน เยอรมนี-ออสเตรีย [PR]

$
0
0

คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ นางเอกสาวสวย พร้อมด้วย จอร์จ – ธาดา วารีช ช่างภาพชื่อดังของเมืองไทย พาผู้โชคดีจากแคมเปญ “บิ๊ก คาเมร่า บิ๊ก โบนัส 2017 (BIG CAMERA BIG BONUS 2017)” ร่วมเดินทางสัมผัสทริปถ่ายภาพสุดเอ็กซคลูซีฟ 8 วัน ณ เยอรมนี-ออสเตรีย เมืองในฝันของนักถ่ายภาพ เพื่อเปิดประสบการณ์เรียนรู้เทคนิคการถ่ายภาพอย่างเหนือระดับเฉพาะลูกค้า บิ๊ก คาเมร่า โดยมี นางสาวนิวรรณ เตือนใจยา ผู้จัดการแผนกการตลาด บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติร่วมเดินทาง เมื่อเร็วๆ นี้

เมกาบางนา ฉลองครบรอบ 6 ปี ลุ้นชมแสงเหนือที่รัสเซีย ฟรี! วันนี้ – 31 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา [PR]

$
0
0

สิรินฉัตร แสงศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ศูนย์การค้าเมกาบางนา (กลาง) ส่งแคมเปญใหญ่แห่งปี The Mega Marvellous Moment มอบโชคให้กับลูกค้าฉลองครบรอบ 6 ปีของศูนย์การค้าเมกาบางนา เพียงช้อปครบทุก 500 บาทต่อใบเสร็จ รับคูปอง 1 ใบ เพื่อลุ้นรับของรางวัลใหญ่รวมมูลค่ากว่า 900,000 บาท

ได้แก่ แพ็คเกจท่องเที่ยวล่าแสงเหนือสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ประเทศรัสเซีย, บัตรกำนัลแทนเงินสดเพื่อชื้อสินค้าที่ อิเกีย สาขาเมกาบางนา มูลค่า 100,000 บาท, ซัมซุง สมาร์ท ทีวี ขนาด 55 นิ้ว และรางวัลโดนใจอื่นๆ อีกมากมาย พิเศษ! สำหรับสมาชิก เมกา สไมล์ รีวอร์ด หรือช้อปผ่านบัตรเครติดกรุงศรี รับคูปองเพิ่มเป็น 2 ใบ ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์การค้าเมกาบางนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. 02-105-1000 และ www.mega-bangna.com              

“เฮเฟเล่” โชว์นวัตกรรม IDEA FOR LIVING แนวคิดสำหรับความสะดวกสบาย อัพเดทเทรนด์ดีไซน์ ในงานสถาปนิก’61 [PR]

$
0
0

บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ขนทัพนวัตกรรมสินค้าร่วมโชว์ในงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม หรืองานสถาปนิก’61 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Idea for living จาก Häfele โดยเฮเฟเล่ได้นำเสนอสินค้าใหม่ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและ Digital Networking เข้าด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Micro Living และ Smart Home ด้วยแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ต่อผู้อยู่อาศัยในขนาดพื้นที่เล็กๆ แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

มร. โฟลเคอร์ เฮลสเติร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮเฟเล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและครัวเรือน พร้อมทั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ คุณภาพมาตรฐานเยอรมนี เปิดเผยว่า ในงานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม ครั้งที่ 32 หรืองานสถาปนิก’61 ครั้งนี้ “เฮเฟเล่” ได้ร่วมโชว์นวัตรรมภายใต้คอนเซ็ปต์ Idea for living โดยเฮเฟเล่ ได้นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและ Digital Networking เข้าด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Micro Living และ Smart Home ด้วยแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ต่อผู้อยู่อาศัยในขนาดพื้นที่เล็กๆ แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายอย่างไม่เคยคาดคิด

ภายในงานพบกับนวัตกรรมอันทันสมัยของเฮเฟเล่ ที่จะมาช่วยเปลี่ยนให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณง่ายและสะดวกยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ผนังบานเลื่อนสำหรับจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วน  Movable Wall, บานเลื่อน บานสไลด์เพื่อบ้านทันสมัย Alutec หรือ Aluflex , ระบบล็อคอิเล็คทรอนิกส์, หินควอทซ์สำหรับตกแต่งเคาน์เตอร์ทุกสไตล์, Hawa Façade Frontslide บานเลื่อน บานสไลด์ สำหรับอาคารภายนอก, หินสังเคราะห์, เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่สุดของเทคโนโลยีเหนือระดับ เพื่อการทำอาหารที่สมบูรณ์แบบ, สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ, สมาร์ทไปป์, กระจกอัจฉริยะ รวมถึงประตูโรงรถอัตโนมัตินอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่เราได้คัดสรรค์มาทั้งหมด ล้วนตอบโจทย์ต่อทุกไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสวยงามทางด้านภาพลักษณ์และฟังก์ชันการใช้งานอย่างคุ้มค่าสูงสุด

และในงาน สถาปนิก’61 ครั้งนี้ยังมีนวัตกรรมสินค้าที่น่าสนใจ อาทิ  กระจกอัจฉริยะ นวัตกรรมล่าสุดจากประเทศเยอรมนี ที่จะมาปรับเปลี่ยนการส่องกระจกของคุณให้ดูคูลและชิคกว่าเดิม “กระจกอัจฉริยะ”มาพร้อมกับระบบฟังก์ชันที่ครบครัน สามารถฟังเพลง, ปรับเปลี่ยนโทนแสงไฟ, และไล่ฝ้า เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องน้ำทุกสไตล์ โดยกระจกห้องน้ำนี้ มีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 900×600 มม., 900×900 มม. และ 1,200×900 มม.  ระบบล็อคอิเล็กทรอนิกส์ เฮเฟเล่ ไดอะล็อค(Dialock) และระบบจัดการและควบคุมพลังงานในห้องพักโรงแรม อินเทอเรล (INTEREL GRMS), Hafele connect: แอพพลิเคชั่นที่ทำให้การควบคุมแสงส่วางและอุปกรณ์หลายชนิดเป็นไปได้อย่างง่ายดาย

ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพียงเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ BLE ผ่านสัญญาณบูลทูธก็สามารถปรับเปลี่ยนสีของแสงไฟจัดกลุ่มของหลอดไฟในจุดต่างๆ ให้เปิด-ปิด หรี่แสงได้ในครั้งเดียว หรือจัดแสงไฟเป็นซีนาริโอต่างๆ รวมถึงการตั้งตามเวลา หรือตามการขึ้นหรือตกของดวงอาทิตย์ได้ (Sunrise –Sunset) และประตูโรงรถอัตโนมัติ การันตีคุณภาพจากแบรนด์ประเทศเยอรมนี ด้วยผลิตภัณฑ์ประตูโรงรถอัตโนมัติ ซึ่งทุกชิ้นส่วนของประตูทุกชิ้นและทุกบาน ล้วนผ่านการควบคุมและผ่านการตรวจรองรับโดยสถาบันอิสระ โดยประตูนี้ผลิตขึ้นตามระบบการบริหารคุณภาพ DIN EN 9001

นอกจากนี้บูธเฮเฟเล่ภายในงานสถาปนิก’ 61 ยังมีกิจกรรมพิเศษให้กับลูกค้าและผู้เข้าชมงาน ได้ร่วมสนุกอีกมากมาย อาทิ Live สด รีวิวสินค้าแบบใกล้ชิดเจาะลึก โดย “คุณเฟื่องลดา” และชมการสาธิตการทำอาหารจากคุณ Diana Flipo และ “เชฟนิค วิพิทธิจักษ์ พิทยานนท์” ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมฟังก์ชันครบครัน รังสรรค์ทุกเมนูโปรดได้อย่างง่ายดาย

สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ ในงาน “สถาปนิก ’61 ณ บูท S210 ตั้งแต่ 10 โมงเช้า จนถึง 2 ทุ่ม อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1– 6 พฤษภาคม 2561

S’uvimol กระเป๋าหนังเอ็กโซติกสายเลือดไทย ก้าวไกลถึงงาน “Pursuit of Excellence” ที่ประเทศอังกฤษ [PR]

$
0
0

S’uvimol แบรนด์กระเป๋าหนังเอ็กโซติกสายเลือดไทย โดย แพร พัชรพิมล ยังประภากร ได้รับเกียรติเรียนเชิญเข้าร่วมงาน “Pursuit of Excellence” งานสำหรับ RREC (Rolls-Royce Enthusiast’s Club) คลับของคนรักรถ Rolls-Royce และ Bentley นำแฟชั่นกระเป๋าหนังเอ็กโซติกสัญชาติไทยออกสู่สายตาคนทั่วโลก ในฐานะแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับหนังเอ็กโซติกหนึ่งเดียวในงาน เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561 ณ Goodwood House ประเทศอังกฤษ

กระเป๋าหนังเอ็กโซติกเป็นแฟชั่นที่แสดงถึงความมั่งคั่ง รสนิยม และสถานภาพทางสังคม ตั้งแต่ Grace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโก ถ่ายภาพกับกระเป๋าหนังจระเข้ในปี 1965 ด้วยเหตุนี้ S’uvimol แบรนด์กระเป๋าหนังเอ็กโซติกสายเลือดไทย จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมงาน “Pursuit of Excellence” ซึ่งจัดขึ้นสำหรับสมาชิกของ RREC (Rolls-Royce Enthusiast’s Club) คลับของคนรักรถ Rolls-Royce และ Bentley เพื่อให้ได้รู้จักสินค้าระดับ Hi-End แบรนด์ใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้หลากหลายแบรนด์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องได้พูดคุยทำความรู้จักกัน

“Pursuit of Excellence” เป็นอีเวนต์สำหรับสมาชิกกลุ่ม RREC โดยทางบริษัท St.James (Publisher) ผู้รับหน้าที่ดูแลงาน จะเลือกหนึ่งแบรนด์ต่อประเทศต่อประเภทของสินค้า ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ไวน์ หรือเครื่องประดับ เข้าร่วมแสดงผลงานภายในงาน ท่ามกลางความหลากหลายของแบรนด์จากทั่วโลก S’uvimol ได้รับคำแนะนำโดยหนึ่งในสมาชิกของ RREC และทางผู้จัดงานเล็งเห็นว่าสินค้าของ S’uvimol สามารถตอบโจทย์สมาชิก RREC ได้ เลยได้รับเกียรติเรียนเชิญเข้าร่วมงาน ทำให้ S’uvimol เป็นแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับหนังเอ็กโซติกหนึ่งเดียวที่ได้เข้าร่วมแสดงในงานนี้

นอกจากนี้ในหนังสือ The Pursuit of Excellence ยังได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของ แพร พัชรพิมล ยังประภากร ทายาทเจ้าของฟาร์มจระเข้สมุทรปราการและผู้ก่อตั้งแบรนด์ S’uvimol ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านหนังจระเข้เป็นอย่างดี สมกับสมญานาม Queen of Croc ได้กล่าวไว้ในบทสัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า “ แบรนด์ของเราใส่ใจกระเป๋าทุกใบในทุกตารางนิ้ว เพื่อคุณภาพของกระเป๋าที่ดีที่สุดและคงทนอยู่ได้ตลอดไป” ด้วยกระเป๋าดีไซน์คลาสสิกสุดหรู ที่มีลวดลาย ความเงางาม และความยืดหยุ่นของหนังจระเข้แท้จากฟาร์มของแบรนด์เอง นอกจากนี้ยังมีหนังนกกระจอกเทศนำเข้าจากประเทศแอฟริกา และหนังงูนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแสดงถึงความเป็นที่สุดในด้านกระเป๋าหนังเอ็กโซติกอย่างแท้จริง ร่วมสัมผัสกระเป๋าและผลิตภัณฑ์หนังเอ็กโซติกสายเลือดไทยได้แล้ววันนี้ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเวิลด์ BDMS Wellness Clinic และดิเอ็มโพเรียม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: S’uvimol Bangkok และ IG: @suvimolbkk


อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (Index Living Mall) ผนึกพลัง 4 Influencers เผยเทรนด์แต่งบ้านสำหรับปี 2018

$
0
0

 

“บ้าน” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่มีความสาคัญกับชีวิตมนุษย์เรา และเพื่อให้บ้านมีความน่าอยู่น่าอาศัย การตกแต่งบ้านให้สวยงามดูดีเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย จึงมีความสำคัญอย่างมาก

สำหรับเทรนด์การแต่งบ้านที่ไม่ควรมองข้ามในปี 2018 นี้ คือ “ไม้” เนื่องจาก “ไม้” จะให้ความรู้สึกอบอุ่น ไม่แข็งกระด้าง เลยทำให้ปัจจุบันคนส่วนใหญ่เริ่มให้มาให้ความสนใจใช้ “ไม้” ในการแต่งบ้าน เทรนด์ต่อมาที่เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น คือ Smart Home ซึ่งหลังจากเริ่มคุ้นเคยกับระบบกันขโมยอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศ แสงไฟ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้านกันมาพักใหญ่ นับจากนี้ไปอีกไม่กี่อึดใจ “หุ่นยนต์” กำลังจะมาเยือนหน้าประตูบ้านของท่าน เพื่อมอบความสะดวกสบายให้ ส่วนเทรนด์สุดท้ายที่กำลังได้รับความนิยม คือ พื้นที่ที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เทรนด์นี้ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่ม GEN Y เนื่องจากคนกลุ่มนี้รักความอิสระ ดังนั้น พื้นที่ใช้งานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือที่ทำงานจึงเน้นไปที่ความยืดหยุ่น

จากเทรนด์ที่กำลังมาแรงดังกล่าว ทำให้ Index Living Mall มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการพัฒนาสินค้าตกแต่งบ้านใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าคนรุ่นใหม่อยู่เสมอ

ตัวอย่างเช่นงานดีไซน์ใหม่ล่าสุดรุ่น อิทัล สมาร์ท (Ital smart) จาก Index Living Mall ระบบตู้เสื้อผ้าอัจฉริยะ สามารถเลือกฟังก์ชั่นการจัดเก็บได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ ฟังก์ชั่นเด่นๆ เช่น

  • Increase shelf space

ดีไซน์การเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มความลึกของแผ่นชั้นวาง

  • Maximize ceiling space

เพิ่มประโยชน์จากการใช้พื้นที่แนวตั้งได้สูงถึง 2.39 เมตร ซึ่งสูงกว่าโครงตู้ทั่วๆไป

  • Easy & Flexible

โครงตู้อัจฉริยะ ไม่ว่าพื้นที่จะแคบหรือกว้าง เพดานจะสูงหรือต่ำ ก็เติมเต็มพื้นที่ได้อย่างลงตัว

  • More function

สามารถเลือกฟังก์ชั่นการจัดเก็บได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า หรือเครื่องประดับ

  • Soft-close system & Lock system

เปิด-ปิดหน้าบานด้วยความนุ่มนวล ด้วยระบบฟิตติ้งระบบ Soft close ที่รับประกันคุณภาพสูงถึง 25 ปี

  • LED automatic switching

ระบบไฟแอลอีดี เปิด-ปิดอัตโนมัติ

  • Adjustable height system

ไม่ว่าพื้นห้องจะสูง-ต่ำไม่เท่ากัน ก็สามารถปรับให้ราบเรียบด้วยระบบพื้นตู้อัจฉริยะ หน้าบานจึงเลื่อนได้ลื่นไหล ไม่สะดุด

  • Hidden drawer fitting

ดีไซน์ให้สวยทุกมุมมอง ด้วยรางสไลด์ลิ้นชักแบบซ่อน

นอกจากนี้ ยังมีบริการ 3D Designer Specialist โดยดีไซน์เนอร์มืออาชีพ ที่พร้อมให้แนะนำปรึกษา บริการวัดพื้นที่จริงถึงบ้าน  บริการออกแบบฟรีด้วยโปรแกรมสร้างห้องจำลอง 3 มิติเวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมบริการคำนวณค่าใช้จ่ายในงบประมาณที่ลงตัว

และเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพสินค้าของ Index Living Mall ชัดเจนขึ้นจึงขอใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing ด้วยการดึง Influencer ชื่อดัง 4 คนมาบอกเล่าเรื่องราวการแต่งห้องโปรดตามเทรนด์ ประกอบด้วย หยาด-หยาดทิพย์ ราชปาล ดารานักแสดงชื่อดัง, ดีเจพีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร, โอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ศิลปิน นักวาดภาพประกอบและอดีตสมาชิกวงฟูตอง และ เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ ดารา-นักแสดง

 

SLEEPING BEAUTY

เริ่มที่สาว หยาด-หยาดทิพย์ ราชปาล ห้องโปรดของสาวคนนี้คือ ห้องนอน บรรยากาศสบายๆ เพราะการพักผ่อนที่ดีที่สุดคือ การนอนหลับ เนื่องจากสาวหยาดอยู่คอนโดมิเนียม ห้องนอนก็เลยเป็นพื้น ที่ส่วนตัวที่ใช้พักผ่อน ทำกิจกรรมที่ชอบ อย่างเช่น ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ ซึ่งหากใครอยากมีห้องนอนสวยๆ ที่ Index Living Mall ก็มีโปรโมชั่นชุดห้องนอนที่หลากหลายไว้คอยบริการลูกค้า

 

EVERYDAY IS RELAXING DAY

ด้าน เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ หนุ่มชอบ Outdoor แบบชิลล์ๆ ที่หลงใหลในพื้นที่หน้าบ้าน เพราะพื้นที่หน้าบ้านให้ความสบายทั้งการพักผ่อนและเล่นกีฬาในวันว่างถ้าไม่ไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนหรือไปออกกาลังกายที่ฟิตเนส หนุ่มเต๋าก็จะชอบอยู่บ้าน ฟังเพลง เล่นเกมส์ ดูยูทูป หรือเล่นกับสุนัข และเพื่อให้มุมโปรดทำกิจกรรมได้หลายรูปแบบ หนุ่มเต๋าจึง พิถีพิถันในการเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งมากเป็นพิเศษ

 

SECRET OF GENTLEMAN

ขณะที่ดีเจและพิธีกรมาดเนี้ยบอย่าง พีเค-ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ชีวิตในแต่ละวันของหนุ่มคนนี้ ให้ความสำคัญของเสื้อผ้าค่อนข้างมาก เนื่องจากเสื้อผ้าไม่ใช่แค่หนึ่งในปัจจัย 4 ที่ให้แค่ความสวยงาม แต่ยังหมายถึงหน้าที่การงานและความสำเร็จในชีวิต ห้องแต่งตัวจึงเป็นห้องที่พีเคให้ความสาคัญเป็นอันดับแรกก่อนที่จะตกแต่งห้องอื่นๆ ในบ้าน

ด้วยความที่อยู่คอนโดมิเนียม จึงทำให้ พีเค ค่อนข้างมีข้อจำกัดในด้านของการวางแปลนห้องแต่งตัวและเก็บเสื้อผ้า แต่สิ่งนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ Built-in สามารถตอบโจทย์เรื่องการใช้งานและพื้นที่ ได้เป็นอย่างดี Built-in ที่ พีเคเลือกใช้จะเป็นแบบ Walk in Closet โดยเน้นไปที่ราวแขวนสูท ตู้เก็บเครื่องประดับที่มีระบบคีย์การ์ดอีกชั้นเพื่อความปลอดภัย โต๊ะเครื่องแป้งที่มีฟังก์ชั่นเก็บของได้ในตัว นอกจากนี้ ยังมี ไฟ LED ที่จะทำให้สามารถมองเห็นเสื้อผ้าและแอ็คเซสเซอรี่ย์ได้อย่างชัดเจน

 

BE STYLISH BE CHIC

ปิดท้ายที่อาร์ทติสต์สาวอดีตสมาชิกวงฟูตอง อย่าง โอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ตัวแทนของหญิงสาวที่มาพร้อมความมั่นใจ ในลุคผมหน้าม้า ปากแดง และสไตล์การแต่งตัวที่มิกซ์แอนด์แมตช์ สาวคนนี้ใช้เวลาว่างส่วนใหญ่อยู่บ้าน เพื่อนั่ง อ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นกว้างๆ จึงเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งหลักๆ เพียงไม่กี่ชิ้น เน้นสีหลัก 3 สี คือ สีขาว สีดำ และสีน้ำตาล

จุดเด่นของห้องนั่งเล่นที่สาวโอ๋ โปรดปราน  คือ การใช้ของตกแต่งเป็นสีโทนร้อน เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็จะเลือกแบบเรียบง่ายลอยตัวทุกชิ้น เพื่อการเคลื่อนย้ายที่ง่ายเมื่อต้องการเปลี่ยนอารมณ์ให้ห้อง ด้วยเหตุนี้ห้องนั่งเล่นของสาวโอ๋จึงมีชีวิตชีวาไม่น่าเบื่อ เพราะสามารถปรับเปลี่ยนตามใจได้ตลอดเวลา

หลังจากได้แรงบันดาลใจในการแต่งบ้านจากเหล่าคนดังไปเรียบร้อย ได้เวลาลงมือแปลงโฉมพื้นที่ของคุณเองแล้ว ตามไปชม ไอเท็มเด็ดๆ กับอินเด็กซ์แคตตาล็อก 2018 ที่ http://bit.ly/2tDbVvF

หรือตามไปชมสินค้าจริง และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Index Living Mall ทุกสาขา โทร. 02-417-1111 www.indexlivingmall.com www.facebook.com/Indexlivingmall/

ครั้งแรกของวงการโฆษณา Oriental Princess ดึงสาว “แฝดสาม” ย้ำ “โลกสวยได้เพราะความต่าง”

$
0
0

เป็นที่รู้กันอยู่แล้ววว่าธุรกิจเครื่องสำอางมีการแข่งขันการสูงอยู่ตลอดเวลา ทั้งการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งสูตรใหม่ แพคเก็จจิ้งใหม่ รูป รส กลิ่น สัมผัสต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคไม่ว่าจะอายุหรือเพศไหนก็ตาม  รวมไปถึงการสื่อสารอย่างไรให้ออกมาได้ใจลูกค้า

โอเรียนทอล พริ้นเซส (Oriental Princess) แบรนด์เครื่องสำอางเจ้าของวลีฮิต “ผู้หญิงอย่าหยุดสวย” ได้ฤกษ์เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ True Wings Limited Edition ตอบโจทย์สาวเอเชียโดยเฉพาะ 3 Series ได้แก่ HARU, FEI FEI, และ NIRA

คุณอภัยพร ศรีสุข ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอ.พี. เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด และครีเอทีฟผู้สร้างสรรค์ผลงาน คุณธนรรณพ พูลคล้าย ตำแหน่ง Associate Creative Director จาก Ogilvy & Mather เล่าที่มาที่ไปของความงามในคอลเลคชัน True Wings Limited Edition และโฆษณาแฝดสามใบหน้าเหมือนกันที่กระตุ้นให้ผู้หญิงกล้าที่จะแต่งแต้มความงามในแบบของตัวเอง

พลังแห่ง “ปีกนก” สู่ ความสวยงามที่แตกต่าง

คุณอภัยพร ได้กล่าวไว้ว่า “True Wings Limited Edition ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ความงามของปีกนก” ที่แสนสวยงาม ละเอียดอ่อน และมีอิสระที่จะโผบินไปตามที่ใจต้องการ ซึ่งนกแต่ละชนิดก็จะมีความงามในแบบฉบับของตัวเอง  โดยมีนกทั้งหมด 3 สายพันธุ์จากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ได้แก่ นกกระเรียน จากประเทศญี่ปุ่น นกไก่ฟ้า จากประเทศจีน และนกยูง จากประเทศอินเดีย โดยให้นก 3 สายพันธุ์นี้เป็นตัวแทนความงามของผู้หญิง พร้อมกับเชิญชวนให้ผู้หญิงกล้าที่จะสยายปีกความงามในแบบของตัวเอง”

“เราดึงเอกลักษณ์โดดเด่นของนกแต่ละสายพันธุ์ออกมา และถ่ายทอดสีสันสู่เครื่องสำอางและกระเป๋าลวดลายสวยงาม 3 ซีรียส์ เวลาที่แต่งหน้าออกมาก็จะให้ลุคที่แตกต่างกัน หรือใช้มิกซ์กันระหว่างซีรียส์ก็ได้ จะยิ่งทำให้การแต่งหน้าในแต่ละวันมีสีสันไม่ซ้ำใคร ตอบโจทย์ความงามของผู้หญิงไม่หยุดสวยทุกคนที่ต้องการความงามที่แตกต่างกัน”

HARU ความงามแบบญี่ปุ่น ให้ลุคแบบสาวหวานนุ่มนวล (ในเซ็ตจะมี Eye Colours Palette, Lipstick, Duo Cheek Colours, Haru Bag)

FEIFEI ความงามแบบจีน ให้ลุคแบบสาวเปรี้ยว ชิค คูล (ในเซ็ตจะมี Eye Colours Palette, Lipstick, Eyebrow Compact, Fei Fei Bag)

NIRA ความงามแบบอินเดีย ให้ลุคแบบสาวสวยหรู ดูแพง (ในเซ็ตจะมี Eye Colours Palette, Lipstick, Liquid Eyeliner, Nira Bag)

จาก Limited Edition สู่ Web Film สาวแฝด 3

จากการสังเกตพบว่าผู้หญิงยุคนี้ จะแต่งหน้าสไตล์เดิมๆ ทุกวัน ก็เลยเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่าเพราะอะไร.. ซึ่งคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้จากผู้หญิงกลุ่มนี้คือ ‘ไม่มั่นใจที่จะต้องเปลี่ยนลุค เพราะกลัวโดนล้อ’ เช่น อยากทาปากแดงแต่กลัวโดนมองว่าเป็นคนแรง อยากแต่งหน้าลุคหวานๆ แต่ก็กลัวจะโดนหาว่าไม่เหมาะ และอีกหลายคำตอบมากมาย ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่มั่นใจ ทั้งๆ ที่ใจอยากทำ สุดท้ายก็เลยได้แต่แต่งลุคเดิมๆ เพราะนั้นคือ Safe zone ที่จะไม่ทำให้โดนทักหรือโดนล้อ

สยายปีกความงามในแบบคุณ

ครั้งแรกกับแฝด 3 ! ใบหน้าเหมือนกัน แต่แตกต่างที่ความคิด อารมณ์ และเอกลักษณ์Oriental Princess จึงรังสรรค์ ใหม่! True Wings Limited Edition สีสันเพื่อสาวเอเชียโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้หญิงสวยเจิดจรัสในแบบตัวเองมากที่สุด#OrientalPrincess #TrueWingsLimitedEdition #สยายปีกความงามในแบบคุณ #ผู้หญิงอย่าหยุดสวย #KeepBeautiful

โพสต์โดย Oriental Princess Society เมื่อ 22 เมษายน 2018

คุณธนรรณพ พูลคล้าย เสริมว่า  Oriental Princess เชื่อในความแตกต่างของผู้หญิงมาเสมอ ประกอบกับ DNA ของแบรนด์ที่ต้องการส่งเสริมให้ผู้หญิงเป็นตัวของตัวเอง รักในแบบที่ตัวเองเป็น และลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ …แล้วใครที่จะเล่าคอนเซปความต่างได้ดีสุด เลยมาเป็น “แฝดสามสาว” นี่แหละครับ เพราะคนเป็นฝาแฝดกันก็ไม่ได้หมายความว่าชอบอะไรที่เหมือนกันหมด เลยเป็นไอเดียให้เรานำเสนอโดยการใช้ฝาแฝดเป็นคนเล่าเรื่อง

True Wings Limited Edition มี 3 Series จึงเลือกใช้แฝด 3 คน เอาคนที่หน้าเหมือนกันนี่แหละมาเล่าคอนเซ็ปต์ของความต่างแบบชัดเจนที่สุด ให้เห็นว่าถึงจะเกิดจากไข่ใบเดียวกัน ภาพรวมเหมือนกัน แต่มีรายละเอียดเล็กๆที่ไม่เหมือนกัน และที่สำคัญคือมีความคิดที่ต่างกัน ทำให้แต่ละคนก็มีความงามในแบบของตัวเอง เลยออกมาเป็น Web Film “สยายปีกความงามในแบบคุณ” ด้วย True Wings Limited Edition

โดยล่าสุดยังได้มีกิจกรรม #สารภาพความกลัว ที่ให้สาวๆ ได้ #สารภาพความกลัว ในการแต่งหน้า ว่าการแต่งหน้าแบบใดที่ทำให้ไม่มั่นใจ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากใน Twitter ติด Trend อย่างต่อเนื่อง โดย Oriental Princess และ นิตยสารแพรว จะเปลี่ยนความกลัวนั้นเป็นความกล้า พาผู้โชคดี 3 คนก้าวข้ามความกลัว และสยายปีกความงามในแบบของตัวเองผ่าน Exclusive Fashion Set ลงนิตยสารแพรว เดือนมิถุนายน ร่วมกับหนุ่ม “เต้ย พงศกร” สามารถร่วมกิจกรรมได้ที่แฟนเพจของ Oriental Princess หมดเขตร่วมกิจกรรมวันที่ 6 พฤษภาคม 2561

เชื่อว่าหลังจากชมหนังชุดนี้จบจะต้องมีผู้หญิงลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งตัวสยายปีกความงามในสไตล์ของตัวเอง  เพราะตามคอนเซปที่ว่า โลกนี้สวยเพราะความหลากหลาย เช่นเดียวกัน ผู้หญิงสวยได้เพราะความแตกต่าง

Forbes เผย 10 รายชื่อ ‘มหาเศรษฐีไทย’พบ 4 อันดับแรกโกยทรัพย์สินเพิ่มเฉียด 8 แสนล้าน

$
0
0

กลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของไทยมีทรัพย์สินรวมกันทะยานขึ้นเป็นกว่า 1.62 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (5.06 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 1 ใน 3จากปีที่แล้ว โดยผู้ที่ติดทำเนียบ 50 บุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย มีถึง 2 ใน 3 ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดย 4 อันดับแรกมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวมกันเกือบ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ (7.81 แสนล้านบาท)

หลังผ่านพ้นช่วงเวลาซบเซาสั้น ๆ เศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มกลับมากระเตื้องอีกครั้ง ธนาคารโลกคาดการณ์เป็นครั้งแรกนับจากปี 2555 ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวกว่าร้อยละ 4 ในปี 2561 หลังการส่งออกเพิ่มขึ้นผนวกกับความต้องการในประเทศฟื้นตัว แม้เศรษฐกิจจะโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ทรัพย์สินของบรรดาบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากตลาดหุ้นขาขึ้นและเงินบาทที่แข็งค่า

4 อันดับแรกในทำเนียบมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสูงสุด โดยพี่น้องตระกูลเจียรวนนท์แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องด้วยทรัพย์สินมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญ (9.37 แสนล้านบาท)  ด้วยแรงหนุนจากราคาหุ้นของบริษัทสำคัญ ๆ ที่ทะยานขึ้น อาทิ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารร้านค้าสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ได้อานิสงส์จากบรรยากาศการบริโภคที่สดใส และบริษัทประกันภัย Ping An ที่ได้อานิสงส์จากการลงทุนในธุรกิจฟินเทค

อันดับที่ 2 ประจำทำเนียบเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์แห่งกลุ่มเซ็นทรัล มาพร้อมทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นแตะ 2.12 หมื่นล้านเหรียญ (6.62 แสนล้านบาท) จาก 1.53 หมื่นล้านเหรียญ ในปีที่ผ่านมา เฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดงมาในอันดับที่ 3 โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8.5 พันล้านเหรียญ เป็น 2.1 หมื่นล้านเหรียญ (6.56 แสนล้านบาท) ในปีนี้ เจริญ สิริวัฒนภักดี (อันดับ 4) แห่งกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ มีทรัพย์สินเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 2 พันล้านเหรียญ รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สิน 1.74 หมื่นล้านเหรียญ (5.43 แสนล้านบาท)

Aloke Lohia (อันดับ 9) เป็นมหาเศรษฐีอีกหนึ่งท่านที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาก  ทรัพย์สินของเขาทะยานแตะ 3.3 พันล้านเหรียญ (1.03 แสนล้านบาท) พุ่งขึ้นถึงร้อยละ 89 การบรรลุข้อตกลงที่สำคัญนับตั้งแต่ปี 2557 ของเขาทำให้ บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์สเข้าเป็นเจ้าของกิจการ 16 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกิจการในยุโรปและอเมริกาเหนือ ในปี 2560 บริษัทรายงานตัวเลขรายได้ 8.4 พันล้านเหรียญ เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 17

สิ่งสะท้อนความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นคือ ปีนี้มีถึง 32 อันดับที่มีทรัพย์สินระดับพันล้านเหรียญขึ้นไป เพิ่มจากปี 2560 สี่อันดับ (5 ท่าน) โดย 2 ในรายชื่อนี้เป็นมหาเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งเข้าอันดับเป็นครั้งแรกหลังพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ สารัชถ์ รัตนาวะดี (อันดับ 7) ซีอีโอแห่ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเข้าตลาดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ร่ำรวยที่สุดด้วยทรัพย์สินมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญ (1.06 แสนล้านบาท) และอีกหนึ่งคือประจักษ์ ตั้งคารวคุณ (อันดับ 14) เข้าทำเนียบมาเป็นปีแรกด้วยทรัพย์สินสุทธิ 2.1 พันล้านเหรียญ(6.56 หมื่นล้านบาท)

อีกสองมหาเศรษฐีหน้าใหม่ประจำทำเนียบมาจากธุรกิจความสวยความงามที่กำลังเฟื่องฟู ได้แก่ นพ.สุวินและธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ (อันดับ 40) แห่งบิวตี้ คอมมูนิตี้ โดยทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกัน 715 ล้านเหรียญ (2.23 หมื่นล้านบาท) และสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ (อันดับ 45) กับมูลค่าทรัพย์สิน 675 ล้านเหรียญ (2.11 หมื่นล้านบาท) ดู เดย์ ดรีม ของเขาทำรายได้อย่างงามจากกระแสความขาว

ในบรรดามหาเศรษฐีนี 9 คนที่เข้าสู่ทำเนียบในปีนี้ สองคนเป็นผู้ที่กลับเข้าสู่อันดับอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรวมถึง สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (อันดับ 28) ประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ด้วยทรัพย์สิน 1.3 พันล้านเหรียญ (4.06 หมื่นล้านบาท)  ด้าน Nishita Shah Federbush (อันดับ 32, 1.06 พันล้านเหรียญ) ทายาทธุรกิจขนส่งทางทะเลผู้กุมบังเหียนจีพี กรุ๊ป เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีนีที่โดดเด่นด้วยมูลค่าทรัพย์สินของตระกูลมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญเป็นครั้งแรก โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากการเข้าถือหุ้นร้อยละ 51 ในบมจ. เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ บริษัทยาและผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพที่ Kirit พ่อของเธอเป็นผู้ก่อตั้งในปี 2525

จากการกำหนดทรัพย์สินสุทธิขั้นต่ำของผู้ที่ได้รับการจัดอันดับที่ 600 ล้านเหรียญ ทำให้มีมหาเศรษฐี 7 คนหลุดจากทำเนียบ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยไปในปีนี้ รวมทั้งภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ บมจ. อีสเทิร์นโพลีเมอร์ของเขาทำรายได้และผลกำไรลดลงจากอุปสงค์ที่อ่อนแรงและราคาวัตถุดิบที่ถีบตัวสูงขึ้น

รายชื่อตระกูลและอภิมหาเศรษฐี 10 อันดับแรกของไทย

  1. พี่น้องเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.0 หมื่นล้านเหรียญ
  2. ตระกูลจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สิน 2.12 หมื่นล้านเหรียญ
  3. เฉลิม อยู่วิทยา มูลค่าทรัพย์สิน 2.1 หมื่นล้านเหรียญ
  4. เจริญ มูลค่าทรัพย์สิน 1.74 หมื่นล้านเหรียญ
  5. วิชัย ศรีวัฒนประภา มูลค่าทรัพย์สิน 5.2 พันล้านเหรียญ
  6. กฤตย์ รัตนรักษ์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.7 พันล้านเหรียญ
  7. สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สิน 3.4 พันล้านเหรียญ
  8. นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สิน 3.35 พันล้านเหรียญ
  9. Aloke Lohia มูลค่าทรัพย์สิน 3.3 พันล้านเหรียญ
  10. วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สิน 3 พันล้านเหรียญ

การจัดอันดับในทำเนียบฯ ใช้ข้อมูลทางการเงินและการถือครองหุ้นที่ได้รับจากครอบครัวและผู้ที่ได้รับการจัดอันดับ ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ นักวิเคราะห์ และหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวในหลายรุ่น ทั้งนี้มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนคำนวณจากราคาหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 20 เมษายน  ส่วนทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ทั้งนี้ สามารถติดตามรายชื่อในทำเนียบทั้งหมดได้ที่ www.forbes.com/thailand และ www.forbesthailand.com รวมทั้งนิตยสาร Forbes Asia และ Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม

หมดยุคนับแคล! เซ็นเซอร์แปะฟันนวัตกรรมใหม่ตรวจสารอาหารผ่านผิวฟัน

$
0
0

มีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ถูกพัฒนาขี้นมาเพื่อติดตามสิ่งที่คุณกินและดื่มเข้าไปในแต่ละวัน เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่แอปฯ ย่อมต้องการการอัปเดตและอาจจะไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่หลายคนรู้สึกไม่สะดวกในการใช้แอปฯ เหล่านั้นเพื่อนั่งตรวจดูปริมาณสารอาหารที่ได้รับจากข้าวมันไก่ หรือน้ำอัดลมที่กินเข้าไป เป็นที่มาของสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่มีลักษณะเป็นเซ็นเซอร์จิ๋วขนาด 2×2 มิลลิเมตรนี้ ที่จะมาเปลี่ยนการติดตามพฤติกรรมการทานอาหารแบบเดิมๆ ไปตลอดกาล

เจ้าสิ่งนี้พัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยของ Tufts University School of Engineering มีความสามารถในการตรวจจับเกลือ, กลูโคส และแอลกอฮอล์ ตอนนี้ทีมวิจัยเชื่อว่าเซนเซอร์สำหรับติดฟันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการศึกษาทางการแพทย์ และเพื่อช่วยในส่วนของการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยบางราย

เซ็นเซอร์นี้มีความยืดหยุ่นและสามารถแปะกับฟันได้ด้วยกาว มันทำมาจากทองคำรูปสี่เหลี่ยมสองชั้นประกบกันแบบแซนวิชที่มี bioresponsive ตรงกลาง ซึ่งทำปฏิกิริยากับสารต่างๆ ในขณะที่ชั้นที่เป็นทองทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณ โดยโทรศัพท์มือถือซึ่งมีคลื่นวิทยุจะส่งสัญญาณที่ได้รับจากเซ็นเซอร์ และให้เซ็นเซอร์ดูดรับสัญญาณและสะท้อนส่วนที่เหลือกลับไปยังมือถือ

เซ็นเซอร์ตัวนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยในการดูแลสุขภาพและการวิจัยทางการแพทย์ในอนาคต ตอนนี้นักวิจัยและแพทย์ต้องพึ่งพาตัวครอบปากขนาดใหญ่และสายไฟเพื่อติดตามสารอาหารที่ผู้ป่วยได้รับ แต่สารเหล่านี้ย่อยสลายอย่างรวดเร็วและทำให้ยากที่จะนำข้อมูลมาใช้ ด้วยเจ้าเซนเซอร์แปะฟันตัวนี้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย อุปกรณ์จะทำการวัดอย่างละเอียดด้วยตัวมันเอง ในรูปแบบที่ไม่ต้องมองเห็นชัดเจนและไม่สร้างความรำคาญ (อาจจะมีทองๆ แวบๆ เล็กน้อย)

ในอนาคตเซนเซอร์แปะฟันอาจกลายมาเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการติดตามข้อมูลด้านอาหาร หากอุปกรณ์สามารถติดตามทุกสิ่งที่เรากินและส่งไปยังฐานข้อมูลได้อย่างแม่นยำ เราจะไม่จำเป็นที่จะต้องบันทึกทุกอย่างที่เราใส่เข้าไปในร่างกายด้วยตัวเองอีกต่อไป เราจะรู้ได้เลยว่าวันนี้กินไปกี่แคลอรี และไขมัน โปรตีน เกลือแร่ หรือวิตามินชนิดใดบ้างที่วิ่งเข้าสู่ร่างกาย เห็นได้ชัดว่ามันจะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นแบบสบายขึ้น และด้วยข้อมูลดังกล่าวแพทย์จะสามารถรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องมากขึ้นอีกด้วย

เทคโนโลยีนี้อาจมีการนำไปปรับใช้งานในด้านอื่นๆ อีกตามที่ Coauthor และศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมของ Tufts Fiorenzo Omenetto กล่าว ทีมวิจัยสามารถปรับเปลี่ยนชั้น bioresponsive เพื่อไว้ใช้ในการตรวจหาสารเคมีอื่นๆ ได้ เช่น วิตามิน หรือยาเสพติด พวกเขายังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อตรวจหาสารเคมีบนผิวหรือผิวอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่นในอนาคตเราอาจได้เห็นอุปกรณ์แปะผิวหนัง ที่สามารถตอบสนองต่อปริมาณน้ำตาลที่อยู่ในเหงื่อ เพื่อตรวจหาโรคเบาหวานได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับเซ็นเซอร์มีวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ เราจะมีโอกาสได้เห็นอุปกรณ์ขนาดเล็กลงและซับซ้อนขึ้นที่สามารถตรวจจับสารประกอบได้มากขึ้นไปพร้อมๆ กัน  

ไม่แน่ว่าเจ้าเซ็นเซอร์แปะฟันนี้ อาจกลายไปเป็นพล็อตหนังสนุกๆ ได้หลายเรื่อง อย่าง Black Mirror ที่เอาไว้ตรวจจับคนที่กินจุเกินกำหนดเพื่อตัดสินโทษประหารให้จมถังซอสตายอะไรแบบนั้นก็เป็นได้

Source

แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM

 

Blizzard ได้แล้วค่ะ! Dairy Queen เล่นใหญ่ ไม่ได้คว่ำแค่ถ้วย แต่คว่ำมันทั้งร้าน!

$
0
0


ใครที่เคยกิน Dairy Queen น่าจะจำท่าประจำของพนักงานเวลาที่พวกเขาเสิร์ฟเมนูฮิตอย่าง “Blizzards” ให้เราได้ นั่นคือการคว่ำแก้วชะวื้บ เพื่อเป็นการยืนยันถึงความหนาแน่นของมวลไอศครีมที่ความเย็นและความละเอียดอัดเต็มอยู่ในถ้วยพร้อมรสชาติอันนุ่มนวลที่เราหลงใหลแบบไม่เสียคุณค่า

แต่ที่ปานามาแค่การคว่ำแก้ว บลิซซาร์ดได้แล้วค่ะนั้นธรรมดาไปแล้วจ้า เมื่อพวกเขาเล่นใหญ่กว่านั้นด้วยการนำไอเดียจุดขายของของแบรนด์ไปต่อยอดให้มากกว่าแค่การคว่ำแก้ว แต่เล่นคว่ำร้านทั้งร้าน (รวมทั้งจับพนักงานห้อยหัวเป็นปีเตอร์ พาร์คเกอร์ เวอร์ชั่นใส่ชุดสไปเดอร์แมนแล้วด้ววย) จนโด่งดังโดนใจชาวเน็ต ซึ่งพนักงานที่ห้อยลงมาก็หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนนี่เป็นเรื่องปกติ

“ฉันเป็นห่วงมาก” ลูกค้าคนหนึ่งเขียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว “พนักงานจะเลือดตกหัวไหมนั่น อะไรทำให้เธอไปห้อยอยู่แบบนั้นได้ คนเราสามารถใช้ชีวิตกลับด้านได้จริงๆ หรือ เธอดูปกติดีที่อยู่แบบนั้น นั่นเป็นเรื่องปกติหรอ โอ๊ยตาย ชั้นปวดหัว”

ผู้ที่ได้ชมเหตุการณ์ต่างร่วมกันเสนอทฤษฎี บ้างก็ว่ามันเกี่ยวกับภาพลวงตา บางคนแนะนำว่าพนักงานถูกผูกสลิงและชุดสำหรับห้อยตัวลงมา ในขณะที่คนอื่นๆ คิดว่าแบรนด์อาจจะใช้กระจกเงาในการกลับภาพจากพื้นให้เราเข้าใจผิด

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าทำยังไง แต่หากเราดูในวิดีโอมันเหมือนการยก Kios ทั้งร้านให้กลับหัวจริงๆ มาก ไม่ใช่แค่พนักงาน แต่เป็นร้านทั้งร้าน ที่มีลูกค้ายืนรอซื้อไอศกรีมอยู่เป็นจำนวนมาก

Source

แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM

 

Viewing all 21709 articles
Browse latest View live


<script src="https://jsc.adskeeper.com/r/s/rssing.com.1596347.js" async> </script>