Quantcast
Channel: Brand Buffet
Viewing all articles
Browse latest Browse all 21626

รู้จัก “กลุ่มไทยรุ่งเรือง” ตำนานอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยแห่งแรกของไทย ในแบรนด์ “น้ำตาลษฎา” และ “น้ำตาลลิน” พร้อมความสำเร็จที่ส่งผ่าน 4 เจเนอเรชัน

$
0
0

“น้ำตาล” เป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของอุตสาหกรรมเกษตรและการส่งออกของไทย รวมถึงเป็นสินค้าบริโภคสำคัญของโลก โดยประเทศไทยเริ่มส่งออกน้ำตาลมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งในยุคนั้นน้ำตาลถือเป็นหนึ่งในสินค้าทางการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ โดยผลิตจากอ้อยที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย ในสมัยรัชกาลที่ 3 ชาวจีนเริ่มตั้งโรงงานน้ำตาลในไทยเพื่อส่งขายทั้งในและต่างประเทศ และอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาแข่งขัน ส่งผลให้มีโรงงานน้ำตาลกระจายไปทั่วประเทศนับแต่สมัยนั้น

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน อุตสาหกรรมน้ำตาลไทยเติบโตอย่างรวดเร็วจนได้รับการยอมรับทั่วโลก ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลอันดับ 2-3 ของโลก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเกษตรกรหลายแสนครัวเรือนและเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของอุตสาหกรรมอาหารไทยที่เป็นครัวของโลกให้มีความสมบูรณ์แบบ

“น้ำตาลลิน” เป็นชื่อแบรนด์น้ำตาลแรกภายใต้การผลิตและจัดจำหน่ายของ “กลุ่มไทยรุ่งเรือง” ซึ่งเป็นเอกชนรายแรกๆ ที่บุกเบิกอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศไทย และเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีในการผลิตน้ำตาลที่ทันสมัย ส่งต่อคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า 79 ปี ภายใต้การบริหารของตระกูล “อัษฎาธร” ที่สืบทอดการบริหารงานจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยในปัจจุบัน

จากงานช่างสู่ผู้ผลิตน้ำตาลเอกชนแห่งแรกของไทย

ธุรกิจน้ำตาลของกลุ่มไทยรุ่งเรือง เริ่มการดำเนินกิจการในช่วงเวลาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำตาล รัฐบาลสนับสนุนให้เอกชนก่อตั้งโรงงานน้ำตาล แต่พบปัญหาค่าเครื่องจักรสูงเนื่องจากต้องนำเข้าจากต่างประเทศ คุณสุรีย์ อัษฎาธร หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เถ้าแก่หลิ่น” ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านช่างกลึงเหล็ก จึงประดิษฐ์ชิ้นส่วน อุปกรณ์ต่างๆ ที่หายาก ขึ้นมาใช้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ทำให้เถ้าแก่หลิ่นได้รับสมญานามว่า “ราชาน้ำตาลไทย” (Thailand’s King of Sugar) และได้ก่อตั้งโรงงานน้ำตาลแห่งแรกคือ โรงงานร่วมกำลาภ ที่บริเวณซอยพร้อมพงษ์ ริมคลองแสนแสบ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2489 นับเป็นก้าวแรกของตระกูลอัษฎาธร สู่วงการธุรกิจน้ำตาลเอกชนแห่งแรกของไทย

ตลอดเวลาของการดำเนินธุรกิจนั้น เถ้าแก่หลิ่น ยึดหลักการบริหารที่มุ่งสร้างความมั่นคงและความยั่งยืน พร้อมทั้งมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยยึดหลักสำคัญ 2 ประการคือ

  1. ความซื่อสัตย์สุจริตต่อคู่ค้าและผู้บริโภคที่ผู้คนมักพูดว่า “คำพูดของเถ้าแก่หลิ่นเปรียบเสมือนดั่งสัญญา” เพราะเมื่อท่านได้ให้คำมั่นสัญญาแล้ว แม้จะไม่มีการเซ็นสัญญาก็ตาม ท่านก็จะยึดมั่นในคำพูดนั้น เห็นได้จากการเจรจาการค้ากับต่างประเทศ โดยมีการตกลงราคาน้ำตาลจนทั้งสองฝ่ายพอใจ แม้ในภายหลังราคาน้ำตาลจะปรับสูงขึ้นตามกลไกตลาดเถ้าแก่หลิ่นก็ยังคงยืนยันในราคาที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นการรักษาวาจาที่เคยให้ไว้กับคู่ค้า

2.การรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานสูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าของตระกูล และพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ

ไม่เพียงเท่านี้ ปณิธานของเถ้าแก่หลิ่นที่ว่า ‘คุณค่าของความเป็นคนนั้น มิได้วัดกันด้วยทรัพย์สินเงินทอง หรือ อำนาจวาสนา แต่วัดกันด้วยคุณงามความดีที่เราได้ทำ’  สิ่งนี้ได้รับการถ่ายทอดในดีเอ็นเอของผู้บริหารรุ่นต่อๆ มาทั้ง 4 เจเนอเรชัน ตลอดระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษ

เหนือกว่าอาณาจักรน้ำตาล แต่คืออาณาจักรแห่งคุณภาพที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น  

ตำนานอันยาวนานในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลของกลุ่มไทยรุ่งเรือง เป็นการพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่ความสำเร็จในตลาดภายในประเทศ แต่ยังเป็นผลจากการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและเป้าหมายที่มุ่งสร้างมาตรฐานคุณภาพที่ยั่งยืนและมั่นคง ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมุ่งมั่นในการขยายแบรนด์น้ำตาลคุณภาพของไทยไปสู่ตลาดโลก และได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่างภาคภูมิใจ

การยืนอยู่อย่างมั่นคงของอาณาจักรธุรกิจครอบครัว อัษฎาธร หลังจากที่ เถ้าแก่หลิ่น รุ่นที่ 1 ส่งมอบไม้ต่อตำแหน่งประธานกลุ่มไทยรุ่งเรืองให้กับทายาทรุ่นที่ 2 คุณสุวัฒน์ อัษฎาธร บุตรชายคนโต ผู้เป็นกำลังสำคัญของกลุ่มไทยรุ่งเรืองตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อตั้ง และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงขยายธุรกิจ สร้างโรงงานน้ำตาลแห่งแรกในจังหวัดกาญจนบุรี ในนาม ‘ไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม’ ตลอดระยะเวลาที่รับช่วงบริหารท่านทุ่มเททำทุกอย่างให้ดีที่สุด ถือได้ว่าเป็นยุคขยายอาณาจักรโรงงานน้ำตาลของกลุ่มไทยรุ่งเรืองที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ยังได้มีการเสริมทัพทายาทรุ่นที่ 2 คุณสุรินทร์ อัษฎาธร บุตรชายคนเล็ก ที่ร่วมสานต่อธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับพี่ชาย คุณสุวัฒน์ อัษฎาธร เพื่อพัฒนาขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งภายใต้ปณิธานของตระกูลอัษฎาธร ทั้งคุณสุวัฒน์และคุณสุรินทร์ต่างมีความพิถีพิถัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้านคุณภาพ และยังให้ความสำคัญกับการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์เอง รวมถึงการซ่อมแซมโดยทีมงานของบริษัทตามแนวคิดการพึ่งพาตนเองของเถ้าแก่หลิ่นเพื่อให้สินค้าน้ำตาลมีคุณภาพที่ดีที่สุด จนเป็นที่ยอมรับและปัจจุบันสามารถก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำตาลยักษ์ใหญ่ที่สำคัญทั้งในประเทศไทยและระดับโลกด้วย

เมื่อกำลังสำคัญของหัวเรือใหญ่ทายาทรุ่นที่ 2 ได้ผลักดันความสำเร็จสู่ทายาทรุ่นที่ 3 ดร.อุกฤษฏ์ อัษฎาธร ปัจจุบันบริหารอยู่ในตำแหน่ง ‘กรรมการผู้จัดการใหญ่’ ซึ่งยึดหลักของคุณธรรม ความซื่อสัตย์ คุณภาพและความยั่งยืน โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อความสุข รอยยิ้ม สู่สังคม พร้อมทั้งต่อยอดธุรกิจที่ไม่เพียงแค่ธุรกิจน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังได้แสวงหาโอกาสและบุกเบิกธุรกิจใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อย และธุรกิจเอทานอลจากกากน้ำตาล ธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร ธุรกิจท่าเรือคลังสินค้า ธุรกิจการจัดการส่งออกน้ำตาล ธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจ     ลีสซิ่ง นอกจากนี้ กลุ่มไทยรุ่งเรืองยังได้ร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่นผลักดันพลังงานทดแทนที่ยั่งยืน ในการผลิตเอทานอลจากชานอ้อย (cellulosic ethanol) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยได้เคยจำหน่ายให้กับประชาชนมาแล้วสมัยนั้น ถือได้ว่าคนไทยเป็นผู้ที่เคยได้ใช้เอทานอลที่ผลิตโดยใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ (Second Generation Ethanol)

ปิดท้ายด้วยผู้บริหารรุ่นใหม่ที่นั่งแท่นเสริมทัพ คุณณิชา อัษฎาธร ‘รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำตาลและอาหาร’ และคุณอัษฎา อัษฎาธร ‘ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจพลังงานและนวัตกรรม’ ทายาทรุ่นที่ 4 ที่พร้อมลงสนามพิสูจน์ฝีมือและรับไม้ต่อยอดอาณาจักรของครอบครัวแล้ว

จุดเปลี่ยนแห่งแบรนด์ใหม่และการแตกไลน์ธุรกิจ

เมื่อธุรกิจเรามีแบรนด์แมสติดตลาด มีฐานลูกค้ากลุ่มหลัก มีชื่อเสียง และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค กลุ่มไทยรุ่งเรืองจึงได้คิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถขยายฐานลูกค้าและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต่อยอดธุรกิจมุ่งสู่การแตกไลน์ จากเดิมที่เราผลิตน้ำตาลทรายและบรรจุในรูปแบบกระสอบ ก็ได้พัฒนาทำแพ็กเกจจิ้งขึ้นใหม่ มีหลายขนาด ในขนาดที่เล็กลง พกพาสะดวก หาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ โดยคำนึงถึงความต้องการของตลาดอย่างครบวงจร

จากแนวคิดการบริหารธุรกิจที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น คุณณิชา อัษฎาธร ทายาทรุ่นที่ 4 เห็นว่า น้ำตาลแบรนด์ “LIN” และ “TRR Group” ยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้อย่างเต็มที่ จึงมองเห็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่ยังขาด โดยมุ่งเน้นความแตกต่างในแง่ของคุณภาพและการสื่อสารแบรนด์ที่เข้าใจง่ายเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างแท้จริง

กลุ่มไทยรุ่งเรืองจึงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ษฎา” (SADA) ซึ่งเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับชื่อ แม้แบรนด์ “ษฎา” อาจฟังดูยาก แต่เมื่อเข้าใจความหมายแล้วจะเห็นถึงความรักและความตั้งใจในการส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ชื่อ “ษฎา” มาจากนามสกุลอัษฎาธร (Asadatorn) และหลักการตั้งชื่อแบรนด์นี้ก็คล้ายกับการตั้งชื่อ “ลิน” เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว โดยทายาทรุ่นที่ 3 ดร.อุกฤษฏ์ อัษฎาธร ได้นำเสนอชื่อ “ลิน” ที่มาจากชื่อของคุณทวด “เถ้าแก่หลิ่น” สำหรับความหมาย “ษฎา” ในภาษาญี่ปุ่น “SADA” หมายถึง “Pure One” หรือ “บริสุทธิ์” ซึ่งตรงกับคุณสมบัติของน้ำตาล และในภาษาฮินดีและภาษาสันสกฤต “SADA” ยังแปลว่า “ตลอดไป” อีกด้วย ซึ่งสื่อถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่มุ่งมั่นที่จะผลิตน้ำตาลที่มีคุณภาพสูง เน้นความสะอาดและความบริสุทธิ์ที่จะคงอยู่ในใจผู้บริโภคตลอดไป ” คุณณิชา อธิบาย

ปัจจุบัน น้ำตาลภายใต้กลุ่มไทยรุ่งเรืองมีทั้งหมด 3 แบรนด์ คือ แบรนด์ “ทีอาร์อาร์กรุ๊ป” (TRR Group) น้ำตาลสำหรับการส่งออกและขายให้อุตสาหกรรมและยี่ปั๊วในประเทศ แบรนด์ “ลิน” (LIN) น้ำตาลสำหรับกลุ่มคนรักการทำขนม การทำเบเกอรี่ และแบรนด์ “ษฎา” (SADA) น้ำตาลที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกครัวเรือน

มากกว่ากำไรแต่คือความสุขอย่างยั่งยืน

ตลอดระยะเวลาการบริหารงานภายใต้กลุ่มไทยรุ่งเรือง ไม่เพียงยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม แต่ยังมุ่งมั่นสร้างความสัมพันธ์อันดีและความสำเร็จกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบโรงงาน และมุ่งใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า พร้อมรักษาสมดุลของระบบนิเวศ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดสายห่วงโซ่อุปทาน เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

คุณณิชา เปิดเผยว่า “ตั้งแต่รุ่นคุณทวด (เถ้าแก่หลิ่น) ท่านเป็นผู้ริเริ่มการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ด้วยการสนับสนุนการให้สินเชื่อและรับซื้ออ้อยจากเกษตรกรในพื้นที่โรงงานมาใช้ในการผลิตน้ำตาล ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย มาจนถึงทายาทรุ่นที่ 2 และทายาทรุ่นที่ 3 ที่มีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อม โดยได้นำสิ่งเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น กากน้ำตาลและชานอ้อย มาผลิตเป็นพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด พร้อมทั้งไม่ปล่อยของเสียสู่สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความเป็นอยู่ของพนักงาน คนงาน และชุมชน โดยการทำโครงการเกษตรอินทรีย์ตามแนวทางวิถีพอเพียง และแบ่งปันพื้นที่บริเวณรอบโรงงานเพื่อทำแปลงเกษตรปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งพนักงานของเราดูแล และเมื่อมีผลผลิตออกมาก็จะนำมาแบ่งปันกัน นอกจากนี้ยังมีโครงการธนาคารวัสดุ   รีไซเคิล ซึ่งเป็นการบริหารจัดการขยะในครอบครัวของพนักงาน โดยเด็กๆ ก็สามารถหารายได้จากการเก็บขวด กระป๋อง และวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เพื่อนำมาขายให้กับโครงการได้อีกด้วย”

ตอกย้ำสิ่งที่ กลุ่มไทยรุ่งเรือง มุ่งมั่นการพัฒนาอย่างยั่งยืน จากรางวัลและประกาศเกียรติคุณต่าง ๆ มากมาย เช่น รางวัลโรงงานน้ำตาลดีเด่น ด้านการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต ปี 2564 และ   ปี 2565 จากทางสำนักงานคณะกรรมมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม รางวัลโรงงานน้ำตาลดีเด่น ด้านการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต ประจำปี 2566 จำนวน 2 รางวัล จากทางสำนักงานคณะกรรมมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศเกียรติคุณคู่ค้าที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในฐานะที่เป็นคู่ค้าที่มีความโดดเด่นในการพัฒนายกระดับมาตรฐานการจัดห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ในสินค้ากลุ่มน้ำตาล จำนวน 2 รางวัล จากงาน “มหกรรมธุรอาหารประเทศไทย ครั้งที่ 17 (MAKRO HORECA 2024)

อย่างไรก็ตาม การขับเคลื่อนธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำตาลของกลุ่มไทยรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความเชื่อที่ว่า “การเติบโตอย่างยั่งยืน คือความสุขที่มั่นคง” เป็นการวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว และสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อสังคมภายใน ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งมิติด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ควบคู่กับการวางแผนบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาปรับใช้ตามยุคสมัย”


Viewing all articles
Browse latest Browse all 21626

Trending Articles



<script src="https://jsc.adskeeper.com/r/s/rssing.com.1596347.js" async> </script>