“เซ็นกรุ๊ป” (Zen Group) เจ้าของเชนร้านอาหารดังที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี มีแบรนด์ในเครือ 10 แบรนด์ กว่า 300 สาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มองโอกาสต่อยอดธุรกิจร้านอาหารไทย ขยายแฟรนไชส์ในต่างประเทศ พัฒนาสินค้าใหม่เจาะตลาดค้าปลีก
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ธุรกิจร้านอาหาร ปี 2568 มีมูลค่า 572,000 ล้านบาท เติบโต 4.8% โดยร้านอาหารแบบ Full Service ในกลุ่มอาหารไทยและญี่ปุ่น รวมทั้งร้านสตรีทฟู้ด เป็นร้านอาหารที่ครองสัดส่วนสูงสุดและยังมีโอกาสเติบโตได้ “เซ็นกรุ๊ป” จึงโฟกัสการขยายธุรกิจร้านอาหารในกลุ่มนี้เป็นหลัก
คุณสรรคนนท์ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “เซ็นกรุ๊ป” กล่าวว่าปัจจุบัน “เซ็นกรุ๊ป” มีธุรกิจอาหารในเครือรวม 10 แบรนด์ ประกอบด้วยแบรนด์อาหารญี่ปุ่น 6 แบรนด์ คือ Zen, AKA , On the Table , Din’s , TETSU , Sushi Cyu & Carnival และแบรนด์อาหารไทย 4 แบรนด์ คือ เขียง, ตำมั่ว, ลาวญวน, De Tummour ครอบคลุมร้านอาหารระดับพรีเมียมไปถึงแนว Casual Dining รวมทั้งร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ด
“ด้วยความครอบคลุมของประเภทร้านอาหารยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น และสตรีทฟู้ดส์ เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ กลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้จึงวางคอนเซปต์ Everyday Zen เพื่อให้ผู้บริโภคคิดถึงเซ็นกรุ๊ปในทุกมื้ออาหารจากทุกแบรนด์ในเครือ”
เจาะ 3 ธุรกิจ “เซ็นกรุ๊ป”
คุณศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด เซ็นกรุ๊ป กล่าวว่าปัจจุบันธุรกิจของ “เซ็นกรุ๊ป” มีอยู่ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. ธุรกิจร้านอาหาร เริ่มต้นด้วยแบรนด์ Zen ร้านอาหารญี่ปุ่น ปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 34 ปัจจุบันมีแบรนด์ในเครือรวม 10 แบรนด์ รวมกว่า 317 สาขา ซึ่งมีทั้งสาขาที่ลงทุนเอง 177 สาขา (สัดส่วน 60%) และสาขาแฟรนไชส์ 140 สาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ (สัดส่วน 40%) โดยร้านอาหารเป็นธุรกิจหลักของเซ็นกรุ๊ป มีสัดส่วนรายได้กว่า 70% ของธุรกิจทั้งหมด
ปีนี้ธุรกิจร้านอาหารมีแผนลงทุน 100 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ 8 สาขา เช่น Zen, AKA , On the Table รวมทั้งการปรับปรุงสาขาเดิมและการเปิดสาขาแฟลกชิป
2. ธุรกิจแฟรนไชส์ โดยรายได้หลักมาจากการขายวัตถุดิบให้กับแฟรนไชส์ สำหรับแผนการขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศ เน้นภูมิภาคเอเชียเป็นเป้าหมายแรก
ในปี 2567 เปิดร้าน “เขียง” ที่ประเทศ ญี่ปุ่น, ลาว และ มาเลเซีย และในไตรมาสแรกปี 2568 มีเปิดเพิ่มที่ ลาว 1 สาขา และฟิลิปปินส์ 1 สาขา โดยมีแผนเปิดสาขาเพิ่มที่ ฟิลิปปินส์ ลาว และมาเลเซียอย่างต่อเนื่องอีกหลายสาขา นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดสาขา On The Table และ ลาวญวน ที่ประเทศลาว ในไตรมาส 2 อีกด้วย
ปีนี้คาดว่าจะเปิดสาขาแฟรนไชส์ร้านอาหารทั้งไทยและต่างประเทศรวม 24 สาขา (ไทย 12 สาขา และต่างประเทศ 12 สาขา) แฟรนไชส์ในต่างประเทศที่มีศักยภาพขยายสาขาได้จำนวนมาก คือ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ เนื่องจากมีประชากรจำนวนมากและนิยมอาหารไทย
3. ธุรกิจบริการอาหาร (Food Service) และธุรกิจค้าปลีก
– เซ็น แอนด์ โกสุม อินเตอร์ฟู้ดส์ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องปรุงรส ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากปลาร้า ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง (Ready-to-Cook)
– คิง มารีน ฟู้ดส์ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเลและเนื้อแช่แข็งของบริษัทย่อย ธุรกิจอาหารทะเลและเนื้อแช่แข็ง รวมถึงวัตถุดิบ ในการปรุงอาหาร มีการจัดหาสินค้าใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้าในกลุ่ม B2B เพิ่มขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งร้านอาหาร โรงแรม
ส่งชุดส้มตำ “ตำมั่ว” เจาะแมคโคร-โลตัส
การขยายธุรกิจค้าปลีกปีนี้ ได้ร่วมมือกับ “ซีพี แอ็กซ์ตร้า” นำร่องที่แมคโครและโลตัสทุกสาขา (ราว 1,500 สาขา) ด้วยการส่งน้ำปลาร้าแบรนด์ “ตำมั่ว” เข้าไปขายคู่กับสินค้าใหม่ ชุดผักส้มตำพร้อมปรุง มี 2 ผลิตภัณฑ์ คือ “ชุดผักส้มตำปลาร้า” และ “ชุดผักส้มตำไทย” ของแบรนด์ “ตำมั่ว” ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยามของร้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าได้รับประทาน “ตำมั่ว” ได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างผ่านช่องทางค้าปลีกของแมคโครและโลตัส
ปีนี้แบรนด์ “ตำมั่ว” มีแผนพัฒนาอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงเมนูใหม่ทุกเดือนเพื่อวางในช่องทางค้าปลีก รวมทั้งแบรนด์ร้านอาหารอื่นๆในเครือ ไม่ว่าจะเป็น เขียง, ลาวญวน จะพัฒนาอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงมาวางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกด้วยเช่นกัน
ธุรกิจของ “เซ็นกรุ๊ป” ปีนี้จะโฟกัสที่การทำรายได้และสร้างผลกำไรในสาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน การปรับโมเดลธุรกิจให้กระชับ ทันสมัย พร้อมทั้งการขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันให้แบรนด์ในเครือมีฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น สร้างการเติบโตให้กับตลาดหลักในกลุ่มประเทศในเอเชีย คาดว่าปี 2568 จะสามารถต่อยอดธุรกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย 10% รายได้รวม 4,500 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE